ราชทัณฑ์ พบผู้ต้องขังติดโควิด 395 ราย เสียชีวิต 1 ราย กำลังคุมระบาดอีก 7 เรือนจำ
กรมราชทัณฑ์ รายงาน สถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 395 ราย เสียชีวิต 1 ราย มีเรือนจำที่ยังอยู่ระหว่างควบคุมการระบาดทั้งสิ้น 7 แห่ง เรือนจำที่เหลืออีก 25 แห่ง สามารถลดการระบาดและอยู่ในแผนสิ้นสุดการระบาดของโรค หรือ EXIT ได้แล้ว โดยจะทยอยเพิ่มเติมอีก 10 แห่งในสัปดาห์หน้า
ภาพจาก AFP
วันนี้ (19 ก.ย.64) เวลา 12.00 น. นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน ข้อมูล ณ วันที่ 18 กันยายน 2564 เวลา 16.00 น. พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 395 ราย พบในเรือนจำสีแดง 336 ราย และพบในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 59 ราย
รักษาหายเพิ่ม 654 ราย เสียชีวิต 1 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 6,204 ราย กลุ่มสีเขียว 84.5% สีเหลือง 15.2% และสีแดง 0.3% เป็นพื้นที่กรุงเทพมหานคร 445 ราย รวมทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ปริมณฑล 135 ราย และต่างจังหวัด 5,624 ราย
นายอายุตม์ กล่าวว่า ในวันนี้ สถานะเรือนจำคงที่ ไม่มีเรือนจำระบาดเพิ่ม กล่าวคือ มีเรือนจำสีแดง 32 แห่ง และเรือนจำสีขาว 110 แห่ง โดยมีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 58,361 ราย หรือ 88% ของผู้ติดเชื้อสะสม 66,332 ราย เสียชีวิตสะสม 137 ราย คิดเป็นอัตรา 0.2% ของผู้ติดเชื้อสะสม
สำหรับผู้เสียชีวิต เป็นผู้ต้องขังจากเรือนจำกลางชลบุรี ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง มีโรคประจำตัว แม้ว่าได้ดูแลรักษาอย่างเต็มประสิทธิภาพตามมาตรฐานโดยทีมแพทย์ และส่งต่อการรักษายังโรงพยาบาลภายนอกแล้ว แต่อาการยังคงไม่ดีขึ้น จนกระทั่งได้เสียชีวิตลง
กรมราชทัณฑ์ ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไป มา ณ โอกาสนี้ ทั้งนี้ ได้ประสานญาติเพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาตามวิธีการจัดการศพผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นที่เรียบร้อย
นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์ปัจจุบัน มีเรือนจำที่ยังอยู่ระหว่างควบคุมการระบาดทั้งสิ้น 7 แห่ง ได้แก่ เรือนจำจังหวัดยโสธร เรือนจำจังหวัดตราด เรือนจำจังหวัดชัยภูมิ ทัณฑสถานวัยหนุ่มนครศรีธรรมราช เรือนจำจังหวัดนนทบุรี เรือนจำจังหวัดสระแก้ว และเรือนจำจังหวัดภูเก็ต
ขณะที่ เรือนจำที่เหลืออีก 25 แห่ง สามารถลดการระบาดและอยู่ในแผนสิ้นสุดการระบาดของโรค หรือ EXIT ได้แล้ว โดยจะทยอย EXIT เพิ่มเติมอีกจำนวน 10 แห่งภายในสัปดาห์หน้า เริ่มจากเรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี และเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ย.) และเรือนจำอื่นๆ ในระยะต่อไป