TNN ศธ.เร่งฉีดวัคซีนนักเรียนให้ครอบคลุมมากกว่า70%ก่อนเปิดเทอมพ.ย.นี้

TNN

เกาะติด COVID-19

ศธ.เร่งฉีดวัคซีนนักเรียนให้ครอบคลุมมากกว่า70%ก่อนเปิดเทอมพ.ย.นี้

ศธ.เร่งฉีดวัคซีนนักเรียนให้ครอบคลุมมากกว่า70%ก่อนเปิดเทอมพ.ย.นี้

กระทรวงศึกษาธิการเปิดแนวทางเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้นักเรียนให้ครอบคลุมมากกว่า70% ก่อนเปิดเทอมพ.ย.นี้

ภาพโดย TNN ONLINE

วันนี้ (13ก.ย.64) นางสาว ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เผยถึงการเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียนที่ 2/2564 ว่า การเปิดภาคเรียนใหม่ ให้มีความปลอดภัยนั้น กระทรวงฯ จะเร่งดำเนินการ ให้คำแนะนำผู้ปกครองนักเรียนกลุ่มอายุ 12-18 ปี ถึงการรับมือก่อนและหลังฉีดวัคซีน 

โดยขั้นตอนจะให้ให้สถานศึกษารวบรวมรายชื่อผู้ประสงค์ฉีดวัคซีน ไปยังกระสาธารณสุข เพื่อวางแผนกระจายวัคซีนต่อไป ซึ่งจะเริ่มฉีดเดือนตุลาคมนี้ และจะเร่งฉีดให้ครอบคลุมเร็วที่สุด เพื่อรองรับเปิดภาคเรียนที่ 2 แบบ On Site ในเดือนพฤศจิกายนนี้

ด้าน นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เผยถึงหลักการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดเรียนว่า วันที่ 15 กันยายนนี้ จะประชุมร่วมกับ ผู้อำนวยการเขต และสถานศึกษาทั้งหมด เพื่อหาแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน 

แต่เวลานี้สถานศึกษาต้องรวบรวมข้อมูลนักเรียนให้เสร็จ ภายในวันที่ 17 กันยายนนี้ และหลังจากนั้น โรงเรียนต้องเชิญผู้ปกครองมารับทราบรายละเอียด วันที่ 17-22 กันยายน

ส่วนช่วง วันที่ 22-24 กันยายน จะให้ผู้ปกครองลงนามใบแจ้งประสงค์การฉีดวัคซีน เมื่อเสร็จสิ้น โรงเรียนจะรวบรวมรายชื่อนักเรียน ไปยังส่งไปยังผู้อำนวยการเขตการศึกษา เพื่อส่งให้สาธารณสุขจังหสัด วางแผนลงพื้นที่ฉีดวัคซีน ซึ่งหากสถานศึกษาใด มีนักเรียนได้รับวัคซีนมากเพียงพอ หรือ ครอบคลุมร้อยละ 70 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด จะมีโอกาส เปิดเรียนแบบ On Site เร็วขึ้น 

หากเปิดไม่ทันวันที่ 1 พฤศจิกายน อาจเป็นช่วงหลังวันที่ 1 พฤศจิกายน ได้เช่นกัน ส่วนโรงเรียน ระดับประถมศึกษา และ อนุบาล ที่นักเรียนอายุต่ำกว่า 12 ปี สามารถเปิดเรียนได้ แต่ต้องประเมินสภานการณ์ความเสี่ยงแต่ละพื้นที่ก่อน และหากเปิดโรงเรียนแล้ว ต้องปฏิบัติตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด 

ด้านนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า การฉีดในเด็ก จะให้ฉีดตามความประสงค์ของผู้ปกครอง ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงศึกษาจะร่วมกันดูแลอย่างดี 

ขณะที่ รองศาตราจารย์ (พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ระบุว่า หลังได้รับวัคซีนไปแล้ว เด็กกลุ่มอายุ 12 ปีขึ้นไป จะมีภูมิคุ้มกันมิสูงกว่าผู้ใหญ่ เพราะร่างกายตอบสนองได้ดี หากสังเกต การติดเชื้อของเด็ก จะพบว่า จะมีอาการรุนแรงน้อยมาก และเสียชีวิต ร้อยละ 0.01 หรือ 1 ใน 1 หมื่น เท่านั้น 

ดังนั้น ร่างกายของเด็กเป็นร่างกายที่ถูกสร้างเพื่อต่อสู้กับเชื้อโรคอยู่แล้ว จึงขอให้มั่นใจในภูมิคุ้มกันที่จะได้รับ และขอให้มั่นใจในความปลอกภัย เพราะผ่านการรับรองจาก อย.ไทยแล้ว และ อเมริกา ยุโรป รับรองความปลอดภัยแล้วเช่นกัน


ข่าวแนะนำ