TNN อังกฤษไม่แนะนำฉีดวัคซีนต้านโควิดแก่เด็กอายุ 12-15 หวั่นกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ

TNN

เกาะติด COVID-19

อังกฤษไม่แนะนำฉีดวัคซีนต้านโควิดแก่เด็กอายุ 12-15 หวั่นกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ

อังกฤษไม่แนะนำฉีดวัคซีนต้านโควิดแก่เด็กอายุ 12-15 หวั่นกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ

คณะที่ปรึกษาด้านวัคซีนของอังกฤษ ไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้แก่เด็กอายุ 12-15 ปีที่มีสุขภาพแข็งแรงดี เนื่องจากกลัวผลข้างเคียงกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ

วันนี้ (4ก.ย.64)คณะกรรมการร่วมวัคซีนและภูมิคุ้มกัน ซึ่งเป็นคณะที่ปรึกษาด้านวัคซีนให้คำแนะนำแก่รัฐบาลสหราชอาณาจักร เปิดเผยเมื่อวานนี้ (3 กันยายน) ว่า ทางคณะกรรมการฯ ตัดสินใจไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้แก่เด็กที่มีอายุ 12-15 ปีทุกคน เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีนในระยะยาว แม้ว่าผลข้างเคียงดังกล่าวจะพบได้น้อยมาก เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน

ทางคณะกรรมการฯ ไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีนต้านโควิดให้แก่เด็กอายุ 12-15 ปี ที่มีสุขภาพแข็งแรงดี แต่แนะนำให้ฉีดวัคซีนให้เฉพาะเด็กในช่วงอายุดังกล่าว ที่มีโรคประจำตัว ซึ่งทำให้พวกเขามีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น หากติดเชื้อโควิด-19

คณะกรรมการวัคซีนระบุต่อไปว่า แม้มีการพบผลข้างเคียงที่เรียกว่า ไมโอคาร์ดิทิส (myocarditis) หรืออาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลัน ในเด็กที่ได้รับวัคซีนต้านโควิดของ Pfizer ในระดับที่มาก นอกจากนี้ ในเด็กที่เกิดผลข้างเคียงดังกล่าว ก็มีอาการเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ทางคณะกรรมการขอรอให้มีข้อมูลมากกว่านี้ เกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีนต้านโควิดในระยะกลางและระยะยาวเสียก่อน จึงจะแนะนำให้ฉีดวัคซีนต้านโควิดในเด็กที่มีสุขภาพแข็งแรงได้

ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนต้านโควิดในสหราชอาณาจักรขณะนี้ สามารถฉีดให้แก่คนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปเท่านั้น ยังไม่มีการฉีดให้แก่เด็กอายุต่ำกว่านั้น

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่จะตัดสินใจขั้นสุดท้าย คือรัฐบาลสหราชอาณาจักร จะทำตามคำแนะนำดังกล่าวของคณะกรรมการที่ปรึกษาวัคซีนหรือไม่ ทางรัฐบาลระบุว่า ขอปรึกษาที่ปรึกษาทางด้านการแพทย์คนอื่น ๆ ก่อน พร้อมกับพิจารณาปัจจัยด้านอื่น ๆ ประกอบด้วย เช่น หากไม่ฉีดวัคซีนให้เด็ก จะส่งผลกระทบต่อการเรียนการสอนในโรงเรียนหรือไม่ ท่ามกลางการถูกกดดันจากบรรดานักการเมืองสหราชอาณาจักรจำนวนมาก ที่เรียกร้องให้เริ่มฉีดวัคซีนต้านโควิดในเด็ก

ในสหราชอาณาจักร มีเด็ก ๆ ติดเชื้อโควิดจำนวนหนึ่ง แต่แทบไม่มีใครที่มีอาการรุนแรงเลย แม้ยังไม่มีการฉีดวัคซีนในเด็กก็ตาม.

ข่าวแนะนำ