“โควิดสายพันธุ์มิว” ระบาดแล้ว 43 ประเทศทั่วโลก
ทั่วโลกพบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์มิว ระบาดไปแล้ว 43 ประเทศ ขณะที่โคลอมเบียยอมรับ "สายพันธุ์มิว" กำลังเป็นสายพันธุ์หลักในประเทศ
วันนี้ ( 4 ก.ย. 64 )เจ้าหน้าที่สาธารณสุขโคลอมเบีย เปิดเผยว่า เชื้อโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์มิว ถือเป็นสาเหตุของการระบาดระลอก 3 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณวันละ 700 รายในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และเกือบ 2 ใน 3 ของผู้ป่วย ตรวจพบเชื้อสายพันธุ์มิว ปัจจุบันโคลอมเบีย มีผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 4.9 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 125,000 ราย ขณะที่อัตราการฉีดวัคซีนไม่ถึง 1 ใน 3 ของประชากรทั้งประเทศ
โควิด-19 สายพันธุ์ “มิว” เป็นเชื้อกลายพันธุ์ใหม่ ที่องค์การอนามัยโลก เพิ่งประกาศยกระดับเป็น “สายพันธุ์ที่ควรสนใจ” อย่างเป็นทางการ เป็นตัวที่ 5 ของโลก ขณะนี้พบการะบาดไปแล้ว 43 ประเทศทั่วโลก นับตั้งแต่ตรวจพบสายพันธุ์นี้ครั้งแรกเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
องค์การอนามัยโลก ได้ประกาศยกระดับไวรัสสายพันธุ์ "มิว" หลังพบว่า เชื้อตัวนี้อาจหลบเลี่ยงวัคซีนได้ คล้ายคลึงกับสายพันธุ์ “เบตา” ที่พบในแอฟริกาใต้ พร้อมเตือนด้วยว่า ไวรัส มิว อาจติดต่อได้ง่าย คล้ายกับ เชื้อ “เดลตา” ซึ่งเชื้อ เบตาและเดลตา ถูกยกระดับเป็น “สายพันธุ์ที่ต้องกังวล” ไปแล้ว โดยเป็นระดับอันตรายกว่าสายพันธุ์ที่ควรสนใจ
ไวรัส “มิว” หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า “B.1.621” พบครั้งแรกในโคลอมเบีย ทวีปอเมริกาใต้ ก่อนจะระบาดกระจายไปในหลายชาติอเมริกาใต้
โดยที่สหรัฐฯ นายแพทย์แอนโทนี่ เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคติดเชื้อและภูมิแพ้แห่งชาติของสหรัฐฯ และหัวหน้าที่ปรึกษาด้านการแพทย์รับมือโควิด-19 ของรัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน กล่าวว่า ไวรัสมิว ยังไม่ได้เป็นภัยคุกคามสหรัฐฯ ในเวลาอันใกล้นี้ เพราะยังมีสัดส่วนการแพร่ระบาดเพียงร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับเชื้อเดลตาที่ยังมีสัดส่วนมากถึงร้อยละ 99 แต่สหรัฐฯ ไม่ได้เพิกเฉยและกำลังจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
จากฐานข้อมูลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของสถาบันวิจัยคริปปส์ รายงานว่า ขณะนี้พบไวรัสสายพันธุ์ มิว ในเกือบทุกรัฐของสหรัฐฯ ยกเว้นเพียง 3 รัฐ คือ เนบราสกา เซาท์ดาโกตา และเวอร์มอนต์ โดยพบการแพร่ระบาดสูงในรัฐอะแลสกา คิดเป็นสัดส่วนเกือบร้อยละ 4 จากตัวอย่างเกือบ 4,000คน
ด้านสหราชอาณาจักร เปิดเผยว่า ตรวจพบผู้ติดเชื้อมิวเกือบ 50 คน ก่อนหน้านี้ สหราชอาณาจักรได้ยกระดับเชื้อมิว เป็นโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่ “อยู่ภายใต้การสอบสวน” ของทางสหราชอาณาจักร ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หลังสำนักสาธารณสุขเปิดเผยผลการศึกษาว่า มิวอาจทำให้ประสิทธิภาพวัคซีนต้านโควิดลดลง แต่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่า เชื้อตัวนี้ สามารถติดต่อได้ง่ายกว่าเดลตา
ทางด้าน อนามัยโลก พบว่า การระบาดของเชื้อมิวในโลก ขณะนี้เหลือไม่ถึงร้อยละ 0.1 เท่านั้น แต่การระบาดในประเทศต้นตอคือ โคลอมเบีย ยังคงเพิ่มขึ้น ผู้ติดเชื้อมิวในโคลอมเบียมีสัดส่วนร้อยละ 39 ของผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ นอกจากนี้ยังมีเอกวาดอร์เป็นอีกประเทศที่มีการระบาดสูง โดยมีสัดส่วนร้อยละ 13 ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ และยังคงเพิ่มขึ้น
สำหรับไวรัสสายพันธุ์มิว เป็นเชื้อกลายพันธุ์ล่าสุดที่ องค์การอนามัยโลกยกระดับเป็น “สายพันธุ์ที่ควรสนใจ” ส่วนอีก 4 ตัวคือ อีตา ไอโอตา แคปปา และแลมป์ดา