"หมอนิธิพัฒน์" เผยเชื้อโควิดติดผ่านระบบหายใจ แนะใช้เครื่องฟอกอากาศลดปริมาณไวรัส
รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล แพทย์ศิริราช โพสต์ข้อความเป็นห่วงว่าเชื้อโควิดที่ลอยอยู่ในอากาศตามสถานที่ต่างๆ จะติดไปยังผู้ที่เดินผ่านไป-มา ผ่านทางการสูดเอาละอองที่ปนเปื้อเชื้อไวรัสเข้าไป แนะ เครื่องฟอกอากาศสามารถช่วยลดปริมาณไวรัสได้
วันนี้ (22 ส.ค.64) รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “นิธิพัฒน์ เจียรกุล” ตัดพ้อเกี่ยวกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร และเป็นห่วงปัญหาเชื้อโควิด 19 ที่ลอยอยู่ในอากาศ จะหาวิธีใดมาทำลายเชื้อที่ลอยอยู่ได้
รศ.นพ.นิธิพัฒน์ ระบุข้อความว่า ไหนๆ ก็อยู่ในสภาวะจำทนที่ฝ่ายบริหารสถานการณ์โควิดจัดมาให้ คนไทยคงต้องทนอยู่กันยาวกับโรคระบาดนี้ไปอีกพักใหญ่ ปัญหาที่จะพบเจอกันต่อไปคือ เราจะทำลายเชื้อก่อโรคโควิด-19 ที่แขวนลอยอยู่ในอากาศภายในอาคารโรงพยาบาล สถานที่ทำงาน สถานที่สาธารณะ และในบ้านเรือนที่ใช้ระบบปรับอากาศ กันได้อย่างไร
หลังจากปากแข็งมากว่าปี ในที่สุดองค์การอนามัยโลกก็ยอมรับว่าโรคโควิด-19 สามารถติดต่อกันได้ทางระบบการหายใจ (airborne) โดยการสูดเอาละอองลอย (aerosols) ที่มีไวรัสปนเปื้อนเข้าไป (WHO, 2021b.)
ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องลดการแพร่กระจายเชื้อภายในอาคารที่มีการระบายอากาศแบบระบบปิด หลายคนสงสัยว่า เครื่องฟอกอากาศชนิดเคลื่อนย้ายได้ (portable air cleaner, PAC) ที่ใช้กันแพร่หลายสำหรับกรอง PM2.5 จะใช้เพื่อวัตถุประสงค์นี้ได้หรือไม่
จากการศึกษาในประเทสสเปน โดยการใช้ PAC ชนิดหนึ่งที่ใช้ HEPA filter ขนาดกรองอนุภาค 0.1 ไมครอน ได้ 99.95% สำหรับใช้ในห้องความจุไม่เกิน 82 ลูกบาศก์เมตร เมื่อตั้งเครื่องทิ้งไว้กลางห้อง (ให้ดูดอากาศได้รอบด้าน) ที่มีผู้ป่วยโควิดอยู่ สามารถลดโอกาสการหมุนเวียนของเชื้อในอากาศของห้องนั้นได้ 80% (Science of the Total Environment 2021 Sep 1;785:147300. doi: 10.1016/j.scitotenv.2021.147300. Epub 2021 Apr 29)
อย่างไรก็ตาม ใครที่จะหาเครื่องฟอกอากาศไปใช้ลดปริมาณไวรัสโคโรนา-2019 ภายในอาคาร ต้องตรวจสอบให้แน่ใจถึง
1. ประสิทธิภาพของ HEPA filter
2. ความจุของห้องที่เหมาะสมกับการทำงานของเครื่อง
และที่สำคัญคือ วิธีการทำความสะอาดหรือการเปลี่ยน HEPA filter อย่างปลอดภัยจากการแพร่กระจายเชื้อที่ติดค้าง เนื่องจากเครื่องสำหรับใช้ที่บ้านนี้ ไม่มีระบบการฆ่าเชื้อที่ผ่านเข้าไปในเครื่องด้วยแสงยูวีเหมือนเครื่องที่ใช้ในโรงพยาบาล
สำหรับระบบระบายอากาศในอาคารของโรงพยาบาลและสถานที่สาธารณะ ยิ่งต้องให้ความสำคัญกันมาก เพราะถ้าไม่ทำให้ดีแล้ว จะทำให้ละอองลอยที่มีไวรัสปนเปื้อนฟุ้งกระจายไปได้ง่าย
นอกจากนั้น อาจมีการติดและสะสมตามท่อทางเดินของอากาศที่ใช้หมุนเวียนในห้อง จนอาจปนเปื้อนกับอากาศใหม่ที่เติมเข้ามา และถ้าไม่มีระบบการกรองอากาศที่ปล่อยทิ้งออกไปให้ดี ก็จะเกิดอันตรายต่อผู้คนที่อยู่ภายนอกอาคาร ได้มีการพยายามหาวิธีการเพื่อใช้ทำลายเชื้อโรคโดยเฉพาะเชื้อไวรัสโคโรนา-2019 ที่หมุนเวียนและไหลออกผ่านระบบระบายอากาศในสถานที่นั้น โดยผสมผสานกันระหว่างการใช้ HEPA filter ระบบการสร้างไฟฟ้าสถิต และการใช้แสงยูวี
ข้อมูลจาก นิธิพัฒน์ เจียรกุล