ออสเตรเลีย เตือน "โควิดสายพันธุ์เดลต้า" แพร่เร็ว 5-10 วินาที

วันนี้ (29 มิ.ย.64) ศูนย์บริหารสถานการณ์ฉุกเฉินโรคโควิด-19 ของออสเตรเลีย ซึ่งนายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน เป็นประธาน เรียกประชุมฉุกเฉินสมาชิกทั้งหมดในคณะทำงาน รวมถึงคณะแพทย์ชั้นนำของประเทศเมื่อวานนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในออสเตรเลียกลับมารุนแรงอีกครั้ง เพราะเชื้อกลายพันธุ์ "เดลต้า" เดินทางเข้ามาถึงประเทศแล้ว 

จุดระบาดที่น่าวิตกอยู่ในนครซิดนีย์ ตัวเลขผู้ติดเชื้อกลายพันธุ์เดลต้าที่พบครั้งแรกในประเทศอินเดีย กลายเป็นเชื้อกลายพันธุ์ที่ออสเตรเลียต้องจับตามองพิเศษ เพราะมีผู้ติดเชื้อเฉพาะในซิดนีย์ 128 คน นอกเหนือจากซิดนีย์แล้ว หลายเมืองกำลังมีผู้ติดเชื้อกลายพันธุ์เพิ่มขึ้นไม่มากนักในพื้นที่รัฐควีนส์แลนด์ รัฐนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี และรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่พบผู้ติดเชื้อหลายหลายพื้นที่ของออสเตรเลีย

รัฐบาลแถลงว่า นี่เป็น "ช่วงเวลาวิกฤติ" ออสเตรเลียรักษาตัวเลขผู้ป่วยให้อยู่ในระดับต่ำด้วยการปิดพรมแดนและการล็อกดาวน์ โดยเฉพาะในนครซิดนีย์ รัฐบาลต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ และกลับมาใช้มาตรการป้องกันโรคในพื้นที่อื่นๆ

ประชาชนชาวออสเตรเลียราว 18 ล้านคน หรือ 70% จากประชากรทั้งหมด ต่างก็ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์หรือมาตรการจำกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะที่หน่วยงานด้านสาธารณสุขต้องเผชิญกับยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นในเกือบทุกรัฐและพื้นที่

นายจอช ฟรายเดนเบิร์ก รัฐมนตรีกระทรวงการคลังออสเตรเลีย เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์เอบีซีว่า คิดว่าออสเตรเลียกำลังเข้าสู่การแพร่ระบาดเฟสใหม่ จากการมีสายพันธุ์เดลต้าซึ่งสามารถแพร่กระจายได้ง่ายขึ้น" พร้อมกับเสริมว่า ขณะนี้การจัดการกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ออสเตรเลียกำลังอยู่ในช่วงอันตราย

ด้าน ด็อกเตอร์จีนเน็ตต์ ยัง หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขของรัฐควีนแลนด์ ออสเตรเลีย เปิดเผยว่า โควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า แพร่เชื้อได้รวดเร็ว โดยการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด พบว่า ประชาชนรายหนึ่งติดเชื้อเพียงแค่เดินผ่านคนแปลกหน้า ที่ป่วยโควิดไม่กี่วินาที ขณะจับจ่ายซื้อของในห้างสรรพสินค้าเวสต์ฟิลด์ บอนดิ จังชัน

ดังนั้น การสัมผัสผู้ป่วยเพียงแค่ระยะเวลาแค่ 5-10 วินาทีก็ทำให้ติดเชื้อได้ ถือเป็นเรื่องน่ากังวล เพราะอนุภาคไวรัสสามารถคงอยู่ในอากาศในรูปแบบละอองได้นานถึง 16 ชั่วโมง มีโอกาสที่ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะสูดหายใจเข้าไป ก็จะทำให้ติดเชื้อได้

ทั้งนี้ ซิดนีย์ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดของออสเตรเลีย ได้ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นเวลา 2 สัปดาห์ตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่เมืองดาร์วินที่อยู่ทางเหนือนั้น ก็มีการใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นเวลา 2 วันเช่นกัน เนื่องจากหน่วยงานสาธารณสุขของออสเตรเลียยังคงไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้

ขณะนี้รัฐควีนส์แลนด์ได้กลับมาใช้มาตรการบังคับให้ประชาชนต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย และจำกัดการรวมตัวที่บ้านพักอาศัยในหลายพื้นที่ รวมถึงบริสเบนซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐควีนส์แลนด์ หลังจากหน่วยงานบริหารของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียได้ใช้มาตรการในลักษณะเดียวกันในพื้นที่เมืองเพิร์ธ นอกจากนี้ ยังมีการบังคับใช้มาตรการจำกัดในเมลเบิร์น ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐวิคตอเรีย รวมถึงกรุงแคนเบอร์ราอีกด้วย

สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษที่ประจำการในออสเตรเลีย รายงานว่า เมื่อสัปดาห์ก่อน ซิดนีย์อยู่ใกล้ช่วงเวลาที่ปลอดภัยจากโควิด ตามร้านอาหารและในคลับหลายเมืองมีผู้คนออกมาใช้ชีวิตกินเที่ยวกันแน่นขนัด

แต่พอเชื้อกลายพันธุ์เดลตา มาถึงออสเตรเลีย เกิดการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วของเชื้อสายพันธุ์นี้ ถือเป็นพลิกโฉม "ความปกติใหม่" ของผู้คนในออสเตรเลีย ซึ่งการระบาดของเชื้อกลายพันธุ์รอบนี้ในออสเตรเลียเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์สามในสี่กลุ่มที่ส่งผลกระทบไปทั่วประเทศ

ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า กองกำลังป้องกันของประเทศพ่ายแพ้หลายครั้งโดยเชื้อโควิดกลายพันธุ์ที่ทรงพลัง เพราะมีคนฝ่าฝืนการกักกันโรงแรมหลายครั้ง ทำให้เกิดความกังวลเรื่องเชื้อกระจายผ่านอากาศ