เชียงรายจับตาเข้ม!ผับท่าขี้เหล็กเปิดคึกคักหวั่นโควิคทะลักเข้าไทย
เชียงรายจับตาเข้มชายแดนหลังผับท่าขี้เหล็กกลับมาเปิดอย่างคึกคัก หวั่นคนลักลอบเข้าไทยนำเชื้อโควิดระบาดซ้ำ
วันนี้ ( 8 พ.ค. 64 )ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากสถานการณ์ความรุนแรงทางการเมืองในเมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ตรงกันข้าม อ.แม่สาย ได้ลดลง และการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เคยเกิดขึ้นช่วงปลายปี 2563 ก็ไม่มีการประเมินออกมาอย่างเป็นทางการอีก เพราะช่วงก่อนหน้าที่ผ่านมามีการปราบปรามผู้ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลทหารโดยส่วนหนึ่งคือบุคลากรด้านสาธารณสุข จนทำให้พื้นที่ท่าขี้เหล็กขาดแคลนเจ้าหน้าที่ในด้านนี้ ทำให้ไม่มีการตรวจหาเชื้อโควิคของประชาชนในพื้นที่จังหวัดท่าขี้เหล็กมาช่วงระยะหนึ่งแล้ว
อีกทั้งไม่มีการออกมาชุมนุมประท้วงของประชาชน เมื่อสถานการณ์ทุกอย่างสงบลง ทำให้ธุรกิจสถานบันเทิงเริ่มกลับมาคึกคักขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่มีการปิดสถานบันเทิงวันจีวันซึ่งเป็นแหล่งกระจายเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อปีก่อนไปแล้ว ก็พบว่าสถานบันเทิงอื่นๆ ที่เคยปิดชั่วคราวได้กลับมาเปิดใหม่อีกครั้ง
โดยภาพบรรยากาศภายในผับแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากด่านพรมแดนตรงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 ไปเพียงประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นไปอย่างคึกคัก ซึ่งแหล่งข่าวนักเที่ยวในเมืองท่าขี้เหล็กรายหนึ่ง กล่าวว่าเมื่อได้เข้าไปเที่ยวในผับก็ไม่ได้มีมาตรการคัดกรองไวรัสโควิด-19 ส่วนภายในจะมีทั้งห้องโถงใหญ่ที่เวทีใหญ่สำหรับการแสดงคอนเสิร์ต และมีโต๊ะเก้าอี้นั่งกันอย่างแออัด มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอาหารจำหน่ายอย่างพร้อมสรรพ บรรยากาศเป็นไปด้วยความสนุกสนานของนักเที่ยวยามราตรี
นอกจากนี้สังเกตุเห็นว่าพนักงานหญิงพูดสำเนียงภาษาไทยกันมากกว่าครึ่งหนึ่งของพนักงานทั้งหมด เมื่อสอบถามได้ความว่ามาจากประเทศไทยจริง โดยมีคนที่อยู่ในฝั่งไทยไปส่งแถวตะเข็บชายแดน แล้วมีคนที่อยู่ฝั่งท่าขี้เหล็กมารับ โดยจ่ายเงินให้กับคนนำพาหัวละ 7,000-10,000 บาท ก็ข้ามมาทำงานยังฝั่งท่าขี้เหล็กได้อย่างสบาย
ซึ่งพวกตนยอมจ่ายเพราะเมื่อเทียบกับรายได้แล้วถือว่าคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป เพราะว่ารายได้จากการทำงานในฝั่งท่าขี้เหล็กราย เฉลี่ยแล้วได้หลายหมื่นบาทต่อเดือน บางคนมีรายได้นับแสน
อย่างไรก็ตามด้านศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค (ศปก.) อ.แม่สาย และทหารกองกำลังผาเมือง ยังคงคุมเข้มในมาตรการปิดชายแดนไทย-เมียนมา เพื่อป้องกันการลักลอบเข้ามาของผู้ที่มีความเสี่ยง แต่ในห้วงที่ผ่านมาก็พบว่ายังคงมีความพยายามลักลอบเข้าเมืองจนทำให้เจ้าหน้าที่ได้จับกุมดำเนินคดีได้หลายราย ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ยังทราบอีกว่าสถานบันเทิงและบ่อนคาสิโนต่างๆ ในเมืองท่าขี้เหล็กได้กลับมาเปิดกันอย่างคักคักทำให้มีการเพิ่มการเฝ้าระวังขึ้นอีกอย่างหนักตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะที่ ศปก.อ.แม่สาย รายงานว่าในวันที่ 8 พ.ค.นี้ พบผู้ป่วยโควิด -19 ในพื้นที่เพิ่มขึ้นจำนวน 5 ราย โดยพบที่บ้านเหมืองแดงใต้ ต.แม่สาย แห่งเดียวถึง 4 ราย สำหรับบ้านเหมืองแดงใต้ มีที่ตั้งติดกับท่ากะหล่ำซึ่งเป็นท่าน้ำที่มักจะมีการลักลอบเข้าออกเมืองจนทำให้เจ้าหน้าที่จับกุมคนกระทำผิดได้หลายครั้ง
ด้าน พล.ต.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง นำเจ้าหน้าที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของทหารแนวชายแดนไทย-เมียนมา และได้เน้นให้เจ้าหน้าที่ได้เข้มงวดการสกัดกั้นผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอย่างจริงจัง เนื่องจากเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาพบผู้ลักลอบเข้าเมืองรวมทั้งสิ้น 13 ครั้ง ผู้ต้องห 59 ราย บางส่วนเดินทางมาจากทางตอนเหนือของประเทศเมียนมาติดกับประเทศอินเดียซึ่งมีไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย
ประกอบกับขณะนี้บ่อนการพนันในท่าขี้เหล็กเปิดให้บริการด้วย ทั้งนี้กองกำลังผาเมืองยังได้ฝึกอบรมกำลังพลและนำเทคโนโลยีที่มีศักยภาพมาใช้ในพื้นที่ชายแดนภาคเหนือทั้งด้าน จ.เชียงราย และเชียงใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานแล้ว.