(คลิป) อย่าวิตกไวรัสกลายพันธุ์ สธ.แจงโอมิครอนไม่ชัดรุนแรง
กระทรวงสาธารณสุข ขอคนไทยอย่าวิตก โควิดสายพันธุ์ โอมิครอน BA.4-BA.5 เพราะยังไม่มีข้อมูลความรุนแรงของอาการป่วย พร้อมย้ำ การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นจะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันได้
ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่า มีผู้หายป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 1,892 คน ส่วนยอดผู้ป่วยอยู่ระหว่างรักษา 22,786 คน อาการหนัก 602 คน ใส่ท่อช่วยหายใจ 281 คน พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,236 คน และมีผู้เสียชีวิต 16 คน
นายแพทย์ โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีมีการเผยแพร่ข้อความทางสื่อโซเชียล ว่า เชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน BA.4 และ BA.5 มีความรุนแรงกว่าสายพันธุ์เดลตา 5 เท่า และมีอัตราเสียชีวิตสูง โดยชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่มีหลักฐานและแหล่งที่มาของข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ขอให้ประชาชนอย่าวิตกกังวลต่อข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ เชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน BA.4 และ BA.5 แม้องค์การอนามัยโลกจะจัดให้เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวลและต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากความสามารถในการแพร่เชื้อเพิ่มขึ้น หลบภูมิคุ้มกันได้มากขึ้น แต่ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอว่ามีความรุนแรงมากขึ้น
ขณะเดียวกัน สถานการณ์แพร่ระบาดของทั้ง 2 สายพันธุ์นี้ องค์การอนามัยโลกให้ความเห็นว่าต้องเฝ้าระวัง BA.5 อย่างใกล้ชิด เนื่องจากแอนติบอดีที่จะทำลายฤทธิ์ของเชื้อใช้ได้น้อย ยารักษาตอบสนองน้อยลง แต่ยังสรุปไม่ได้ว่ามีความรุนแรงเพิ่มขึ้นหรือไม่ ต้องรอข้อมูลเพิ่มเติม
สำหรับประเทศไทย มีระบบเฝ้าระวังสายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ยังพบ BA.4 และ BA.5 ในกลุ่มผู้เดินทางจากต่างประเทศในสัดส่วนสูงกว่าผู้ติดเชื้อในประเทศ และจะมีการศึกษาในผู้ป่วยอาการหนักว่ามีความสัมพันธ์กับ 2 สายพันธุ์นี้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม แม้ช่วงนี้จะมีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ เพื่อให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตได้ใกล้เคียงปกติและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่ขอให้ยังคงมาตรการป้องกันตนเองที่เหมาะสม เพื่อช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อทุกสายพันธุ์ นอกจากนี้ การที่ประชาชนเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อให้มีภูมิคุ้มกันสูงมากพอ ยังเป็นเรื่องที่สำคัญและมีความจำเป็น เพราะจะทำให้ช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อและป้องกันอาการรุนแรงได้
ด้าน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวชื่นชมคนไทยส่วนใหญ่ที่ยังให้ความสำคัญและเห็นประโยชน์ การสวมหน้ากากผ้าและหน้ากากอนามัยด้วยความสมัครใจ เพื่อประโยชน์ด้านสุขอนามัยของตนเองและผู้อื่น // แม้จะมีการผ่อนคลายมาตรการในเรื่องนี้ และเห็นว่าหลักปฏิบัติในการดูแลตัวเองแบบครอบจักรวาล ยังสามารถใช้ได้ทุกสถานที่ ทุกวัน เพื่อความปลอดภัยต่อตนเองและผู้อี่น ทั้งนี้ รัฐบาล และศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ได้ดำเนินการมาตรการต่าง ๆ ด้วยความรอบคอบ รัดกุม เพื่อแก้ปัญหาโควิดไปพร้อมกับให้ประชาชนสามารถดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้
ขณะที่ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 รายงานสถานการณ์ฉีดวัคซีนในประเทศไทย ล่าสุด ณ วันที่ 24 มิถุนายน ที่ผ่านมา มีผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนทั่วประเทศสะสมเพิ่มขึ้นกว่า 139 ล้าน 4 แสนเข็ม //ในจำนวนนี้เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้น เข็มสามกว่า 29 ล้าน 3 แสนเข็ม คิดเป็นร้อยละ 42.3 ของประชากร