กรมวิทย์ฯ-นักไวรัสวิทยา ชี้ "โอมิครอน XE" ยังไม่น่ากังวลเพราะอะไร?
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ - นักไวรัสวิทยา ชี้ "โอมิครอนลูกผสม XE" ยังไม่น่ากังวล เบื้องต้นจะนำตัวอย่างที่เคยถอดรหัสพันธุกรรมไว้ก่อนหน้านี้ มาวิเคราะห์ซ้ำ
วันนี้(3 เม.ย.65)นายแพทย์ ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระบุถึง โอมิครอนสายพันธุ์ลูกผสม XE ว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลและคาดว่าจะแถลงชี้แจงในวันจันทร์ 4 เมษายนนี้ เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน แต่ภาพรวมประเทศไทยมีการสุ่มตรวจตัวอย่าง ถอดรหัสพันธุกรรมทั้งตัวอยู่แล้วเป็นประจำสัปดาห์ละ 500-600 ตัวอย่าง และมีการรายงานขึ้นระบบฐานข้อมูลกลางของโลก คือ จีเซท หากพบความผิดปกติก็จะเจอทันทีเพื่อเฝ้าระวัง แต่เบื้องต้นจากการดูข้อมูลต่างๆยังไม่น่ากังวล ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นเดลตาบวกกับโอมิครอน หรือ โอมิครอนบวกกันเองยังไม่มีข้อมูลอะไรที่จะรุนแรงไปกว่าเดิม
ประเด็น คือ เป็นการเจอโอมิครอนสายพันธุ์ลูกผสม XE ในห้องปฏิบัติการที่อังกฤษในการตรวจถอดรหัสพันธุกรรมตัวอย่างเชื้อ การที่ถอดรหัสพันธุกรรมของไวรัสไปเรื่อยๆโอกาสที่จะพบตัวใหม่ ย่อมเกิดขึ้นได้ เช่น เหมือนสมัยเดลตาที่ตรวจเจอสายพันธุ์ย่อย ลูกหลานกว่า 100 ชนิด ซึ่งเป็นเรื่องปกติของไวรัสที่จะมีการผสมข้ามสายพันธุ์ หรือ ผสมด้วยกันเอง
แต่เมื่อองค์การอนามัยโลก ออกมาเฝ้าระวังและมีการวิเคราะห์ออกมานั้น กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ก็จะนำตัวอย่างที่เคยถอดรหัสพันธุกรรมไว้ก่อนหน้านี้แล้วมาวิเคราะห์ซ้ำ หากเจอก็เจอหากไม่เจอก็ไม่เจอ ขณะที่ การเฝ้าระวังสายพันธุ์ที่มีการระบาดในประเทศไทย ตอนนี้เป็น โอทิครอน สายพันธุ์ BA.2 เกือบร้อยละ70-ร้อยละ80
ขณะที่ ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ ระบุว่า หากดูในรายละเอียดของโอมิครอนสายพันธุ์ลูกผสม XE จะเห็นว่า เป็นการเอาเกือบทั้งหมด ของ BA.2 ซึ่งเป็นการรวมกันระหว่างBA.1และ BA.2 เอาส่วนหน้าของBA.1 มาอยู่ก็เลยทำให้คนคิดว่า อาจจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง ไปบ้าง ส่วนตัวมองว่าไม่ได้มีอะไรแตกต่างก็เหมือนกับ BA.2 ปกติ
ส่วนข้อมูลที่ ว่า โอมิครอนสายพันธุ์ลูกผสม XE มีการแพร่เร็วกว่า BA.2 อยู่ที่ร้อยละ 10 นั้น เบื้องต้นเป็นข้อมูลจากประเทศอังกฤษที่เจอจากตัวอย่าง 500 กว่าคน แล้วก็นำตัวอย่างดังกล่าวมาเทียบกับ BA.2 แล้วก็ยังไม่ได้มีอะไรที่น่ากังวล โดยร้อยละ10 ที่แพร่เร็วกว่านั้นถือว่าน้อยแทบจะไม่แตกต่างจากตัว BA.2 ที่มีการระบาดอยู่ตอนนี้ แต่พอองค์การอนามัยโลก ออกมาพูดถึง โอมิครอนสายพันธุ์ลูกผสม XE ทำให้คนคิดว่า เป็นสายพันธุ์ใหม่ แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่
แต่ถ้าหากพิจารณาจากการประกาศขององค์การอนามัยโลก จะเห็นว่าเป็นการเฝ้าระวังเบื้องต้นว่าอาจจะติดเร็วขึ้น ร้อยละ10 แต่ไม่ได้เตือนว่า จะรุนแรงกว่าสายพันธุ์ที่มีการระบาดอยู่ในปัจจุบัน เนื่องจากตอนนี้ สายพันธุ์ BA.2 มีการระบาดแทบจะครอบคลุมทุกพื้นที่ พอพบ XE มา แค่ทำให้รู้ว่า BA.2 ก็อาจที่แพร่ไวขึ้นเล็กน้อย และคาดว่าอีกสักระยะ ตัว XE ก็จะกลายเป็น BA.2
ดร.อนันต์ อธิบายเพิ่มเติมว่า หน้าตาของโอมิครอนสายพันธุ์ลูกผสม XE เหมือนกับ BA.2 เนื่องจาก ส่วนข้างหลังของตัว XE คือ BA.2 ทั้งหมด มีเพียงบางส่วนข้างหน้าที่เป็น BA.1 ซึ่งตัว BA.1 กับ BA.2 ส่วนข้างหน้าไม่ได้แตกต่างกันเพียงแค่ 1-2 ตำแหน่งเท่านั้น ถ้าหากดูกันจริงๆ XE แตกต่างจาก BA.2 เพียงแค่ 1-2 ตำแหน่ง ซึ่งไม่ได้มีอะไรแตกต่างจาก BA.2 ปกติ
ทั้งนี้ไวรัส มีการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องปกติ แตกย่อยไปเรื่อยๆ อนาคตอาจจะเจออะไรใหม่ๆมากกว่า โอมิครอนสายพันธุ์ลูกผสม XE อีกก็ได้ อย่าพึ่งตื่นตระหนกขณะที่วัคซีนยังคงป้องกันได้อยู่
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า จะการเจอโอมิครอนสายพันธุ์ลูกผสม XE โอกาสที่จะเป็นการระบาดระลอกใหม่ได้หรือไม่นั้น ดร.อนันต์ ระบุว่า ส่วนตัวมองว่าไม่ เนื่องจากไม่มีอะไรเลย แค่ชื่อดูน่ากลัว ว่า เป็น XE แต่ที่กลัวมากกว่า คือการระบาดตอนนี้ ที่ยังพบผู้ติดเชื้อสูงวันละ20,000-30,000 คน
ภาพจาก รอยเตอร์