ศบค.ปลดล็อก 33 จังหวัด พื้นที่สีเหลือง-สีฟ้า ดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้ถึง 5 ทุ่ม
ศบค.ปรับโซนสีคลายล็อก 33 จังหวัดพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) ดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้ถึง 5 ทุ่ม จากเดิม 3 ทุ่ม โดยต้องเป็นร้านอาหารที่ผ่าน SHA+ หรือ Thai Stop COVID 2 Plus เท่านั้น
วันนี้ (20 ม.ค.65) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. แถลงผลการประชุมศบค.ชุดใหญ่ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
โดยมาตรการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร จากสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ที่ผ่านมา พบการระบาดในร้านอาหารที่มีการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในช่วงหลังปีใหม่จำนวนมาก และจากการมีมาตรการจำกัดเวลาในการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ทำให้การระบาดเป็นกลุ่มก้อนในร้านอาหารเริ่มลดลง
ประกอบกับมีการแจ้งจากผู้ประกอบการขอการขยายเวลาบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ดังนั้น ควรปรับมาตรการ สำหรับการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร หรือสถานที่ที่มีลักษณะเดียวกัน ทั้งในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว (สีฟ้า 8 จังหวัด) และพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง 25 จังหวัด) ดังนี้
1.การจำกัดเวลาในการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ไม่เกิน 23.00 น. ปรับจากเดิม 21.00 น.
2.การจำกัดประเภทร้านอาหารที่บริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ได้ต้องเป็นร้านอาหารที่ผ่าน SHA+ หรือ Thai Stop COVID 2 Plus เท่านั้น และตามมาตรการ COVID Free Setting
สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) จากเดิมไม่มี ปรับเป็น 25 จังหวัด ประกอบด้วย กำแพงเพชร ชัยนาท ชัยภูมิ นครพนม นครสวรรค์ นราธิวาส บึงกาฬ ปัตตานี พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ ยะลา ลำปาง ลำพูน เลย สกลนคร สิงห์บุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี หนองบัวลำภู อ่างทอง อำนาจเจริญ อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี
ส่วนพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) เป็น 8 จังหวัดเหมือนเดิม ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี กระบี่ ชลบุรี นนทบุรี ปทุมธานี พังงา และภูเก็ต
ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค.65 เป็นต้นไป.
ภาพจาก TNN ONLINE