TNN ผลวิจัยอังกฤษพบ "เชื้อโควิด" อ่อนฤทธิ์ลง 90% เมื่ออยู่ในอากาศ 20 นาที

TNN

เกาะติด COVID-19

ผลวิจัยอังกฤษพบ "เชื้อโควิด" อ่อนฤทธิ์ลง 90% เมื่ออยู่ในอากาศ 20 นาที

ผลวิจัยอังกฤษพบ เชื้อโควิด อ่อนฤทธิ์ลง 90% เมื่ออยู่ในอากาศ 20 นาที

งานวิจัยในอังกฤษพบ เชื้อโควิด-19 เมื่อลอยไปอยู่ในอากาศนาน 20 นาที ความสามารถในการติดเชื้อจะอ่อนลง 90%

วันนี้( 13 ม.ค.65) ผลการวิจัยของศูนย์วิจัยละอองฝอย มหาวิทยาลัยบริสทอล ในสหราชอาณาจักร ซึ่งทดสอบพ่นละอองที่มีเชื้อโควิด-19 ไปในอากาศ แล้วเก็บอากาศหลังพ่นเพื่อนำไปเพาะเชื้อ 

พบว่าเชื้อในอากาศที่มีความชื้นต่ำลดลงเร็วมาก ต่างจากเชื้อที่อยู่ในความชื้นสูง อย่างไรก็ตามเชื้อจะหายไปเกือบหมด หรือ เสียสมรรถนะในการติดเชื้อในมนุษย์ร้อยละ 90 ภายใน 20 นาที หลังลอยอยู่ในอากาศ ซึ่งอัตราการสูญเสียสมรรถนะดังกล่าวเกิดขึ้นส่วนใหญ่ภายใน 5 นาทีแรก 

การศึกษาวิจัยนี้ ซึ่งตีพิมพ์ในเว็บไซต์ medRxiv ชี้ให้เห็นว่า หากหากสวมหน้ากากอนามัยและอยู่ห่างจากบุคคลอื่นแล้ว โอกาสในการติดเชื้อก็จะน้อยลง หรือไม่ติดเชื้อเลย ส่วนการถ่ายเทอากาศของสถานที่แต่ละแห่งนั้น เป็นปัจจัยรองลงมา แต่ก็มีความสำคัญอยู่เช่นกัน


ผลวิจัยอังกฤษพบ เชื้อโควิด อ่อนฤทธิ์ลง 90% เมื่ออยู่ในอากาศ 20 นาที ภาพจาก TNN ข่าวค่ำ

 


ศาสตราจารย์ โจนาธาน รีด ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยดังกล่าวละอองฝอย และเป็นหัวหน้าผู้ศึกษาวิจัยชิ้นนี้ บอกว่า หลายคนมักจะโทษ ว่า การติดเชื้อโควิด-19 มักเกิดจากสถานที่ที่อากาศไม่ถ่ายเท หรือ คิดว่าเชื้อแพร่กระจายไปหลายเมตรทั่วห้อง ซึ่งก็เกิดขึ้นจริงในบางกรณี แต่ที่จริงแล้ว การติดเชื้อส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการอยู่ใกล้กับคนที่ติดเชื้อมากกว่า ดังนั้นการที่เราสวมหน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่างกับบุคคลอื่นๆ จะทำให้ปลอดภัยมากขึ้นเพราะโอกาสในการติดเชื้อจากไวรัสก็น้อยลงด้วย

ด้านศาสตราจารย์ นายแพทย์มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยการแพทย์แม่นยำ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ให้ความเห็นต่อการวิจัยนี้ว่า โควิด-19 ไม่ได้ติดง่ายๆและช่วยลดความกังวลที่เกรงว่าเชื้อจะแพร่กระจายอยู่ในอากาศได้นาน เพราะผลการวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่า เชื้ออาจจะตาย หรือ อ่อนฤทธิ์ลงเมื่ออยู่ในอากาศนาน 20 นาที ดังนั้นปัจจัยที่จะทำให้การติดเชื้อเกิดขึ้นได้มากที่สุด คือการใกล้ชิดกับผู้ป่วยในระยะ1-2 เมตร โดยมีการสัมผัสลมหายใจ หรือละอองฝอยแบบใกล้ชิด 


ผลวิจัยอังกฤษพบ เชื้อโควิด อ่อนฤทธิ์ลง 90% เมื่ออยู่ในอากาศ 20 นาที ภาพจาก TNN ข่าวค่ำ

 


แต่หากมีการสวมหน้ากากอนามัยและเว้นระยะห่างยังสามารถป้องกันเชื้อได้ แม้เชื้อโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์โอมิครอนที่มีการแพร่กระจายได้เร็ว และที่สำคัญศาสตราจารย์นายแพทย์มานพ เห็นว่า ความรุนแรงของเชื้อโควิดไม่สำคัญเท่ากับการป้องกันตัวเอง รวมถึงการฉีดวัคซีนป้องกันอาการหนักเมื่อติดเชื้อ และเชื่อว่าในที่สุดโควิดจะกลายเป็นโรคประจำถิ่นแต่ไม่ใช่เร็วนี้ เพราะสถานการณ์ระบาดยังไม่นิ่ง

นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่าโควิด สายพันธุ์โอมิครอนยังเป็นไวรัสอันตรายโดยเฉพาะกับผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่เข้าโรงพยาบาลคือคนกลุ่มนี้ 

ด้านนายแพทย์ ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการโครงการสาธารณสุขฉุกเฉิน WHO เปิดเผยว่า กลุ่มคน 3 กลุ่ม ได้แก่ ผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน  กลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มคนที่มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนจะเป็นกลุ่ม ที่มีความเสี่ยงมากที่สุดที่อาจเกิดการเจ็บป่วยอย่างรุนแรง และทำให้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโอมิครอน เช่นเดียวกับแพทย์หญิง มาเรีย แวน เคอร์โคฟ หัวหน้าฝ่ายเทคนิคของโครงการภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพ WHO ที่เตือนรับมือการระบาดของโควิดพร้อมกับโรคระบบทางเดินหายใจอื่นๆ เช่น ไข้หวัดใหญ่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่กำลังจะมาถึงนี้ด้วย




ภาพจาก AFP

ข่าวแนะนำ