TNN เมื่อมังกรเปิด “ถนนจรวด” พร้อมมาตรการสนับสนุนเพียบ (ตอน 3) โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

TNN

คอลัมนิสต์

เมื่อมังกรเปิด “ถนนจรวด” พร้อมมาตรการสนับสนุนเพียบ (ตอน 3) โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

เมื่อมังกรเปิด “ถนนจรวด” พร้อมมาตรการสนับสนุนเพียบ (ตอน 3) โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

เมื่อมังกรเปิด “ถนนจรวด” พร้อมมาตรการสนับสนุนเพียบ (ตอน 3) โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน

เราไปตามรอยดูบทบาทของเซี่ยงไฮ้ในการพัฒนาอุตสาหกรรมอวกาศเชิงพาณิชย์กันต่อเลยครับ ... 


หลายฝ่ายต่างคาดหมายว่า เซี่ยงไฮ้จะมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมฯ ของจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม (Satellite Internet) ซึ่งจะเป็นวิธีการสื่อสารเสริมที่จําเป็น อาทิ กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินหลักทางทะเลและการบรรเทาสาธารณภัย และเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักสําหรับการสื่อสารระบบ 6G ที่กําลังจะมีขึ้นในภูมิภาค


รวมทั้งการใช้งานอย่างกว้างขวางในการสื่อสารของอุปกรณ์อเล็กทรอรุ่นใหม่สําหรับผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟน อาทิ Xiaomi 14 Ultra และ Huawei Mate 60 Pro และการขับขี่ยานยนต์ไร้คนขับ ตลอดจนความต้องการ สถานการณ์ และรูปแบบธุรกิจใหม่อีกมากมายในอนาคต 


เรากำลังพูดถึงอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมวงโคจรต่ำ (LEO) ที่จะทำหน้าที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาภายในห่วงโซ่อุตสาหกรรมอวกาศ และมีบทบาทสําคัญในการขับเคลื่อนการลดต้นทุนและการปรับปรุงประสิทธิภาพของภาคการผลิตในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นซัพพลายเออร์ส่วนประกอบ และผู้ให้บริการด้านเทคนิค


นั่นหมายความว่า จีนกำลังต่อยอดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สําหรับผู้บริโภคต่อไปยังหลายสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นยานยนต์ การบิน และอวกาศ และอินเตอร์เน็ตผ่านดาวเทียมจะมีบทบาทมากขึ้นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์และการผลิตในพื้นที่ในอนาคตอย่างไม่ต้องสงสัย


ขณะเดียวกัน เซี่ยงไฮ้ก็ยังมี “บทบาทนำ” ในการพัฒนาระเบียงวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมจี 60 (G60 Science and Innovation Corridor) ที่ครอบคลุม 9 เมืองสำคัญในพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซีเกียง อาทิ เซี่ยงไฮ้ หางโจว ซูโจว และเหอเฝย 


ระเบียงวิทยาศาตร์ฯ นี้ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2016 หรือเมื่อราว 8 ปีก่อน ถือเป็นกลยุทธ์ระดับชาติที่บูรณาการเอาศักยภาพของ 60 บริษัทจีนที่ล้ำสมัยซึ่งอยู่ในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ มา “ทวีกำลัง” กันผ่านแพลตฟอร์มที่มุ่งผนวก “นวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ากับอุตสาหกรรม” เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนการยกระดับภาคการผลิตสู่ยุคหน้าของจีน


ในส่วนของการพัฒนาอุตสาหกรรมฯ นี้ให้เกิดเป็นรูปธรรม ซงเจียง (Songjiang) เขตหนึ่งในด้านซีกตะวันตกเฉียงใต้ของเซี่ยงไฮ้ ถูกกำหนดเป็นพื้นที่เป้าหมายในการสร้างระบบนิเวศของห่วงโซ่อุตสาหกรรมเต็มรูปแบบไม่ว่าจะเป็นจรวด ดาวเทียม สถานีบนพื้นโลกและนอกโลก และเครือข่ายระบบการสื่อสาร 


โดยจะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานและอุตสาหกรรมกับหัวเมืองต่างๆ ในพื้นที่ปากแม่น้ำแยงซีเกียงให้เกิดความแข็งแกร่งและยืดหยุ่น 


ทั้งนี้ เมื่อปลายเดือนสิงหาคม 2024 รัฐบาลซงเจียงได้เป็นเจ้าภาพจัด “งานสัมมนานิเวศวิทยาอุตสาหกรรมอินเตอร์เน็ตผ่านดาวเทียม” ขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งเสมือนเป็นการ “จุดพลุ” ประกาศก้าวย่างแรกของการเดินทางไกลครั้งใหญ่ในการพัฒนาอุตสาหกรรมฯ ในพื้นที่อย่างเป็นทางการ 


การสัมมนาดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้โมเดล “1+3” (1 การประชุมหลัก และ 3 ฟอรัมย่อย) ที่ผู้แทนหน่วยงานของรัฐ ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และตัวแทนองค์กรเอกชนได้ร่วมกัน “ระดมสมอง” เพื่อหารือในเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มการพัฒนา โอกาส และความท้าทายของอุตสาหกรรมฯ นี้ 


การสัมมนายังได้ขยายภาพแผนปฏิบัติการ 3 ปีและอุตสาหกรรมข้อมูลเชิงพื้นที่ที่ครอบคลุม 5 ส่วนสําคัญตั้งแต่การวิจัยและพัฒนา การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวก การผลิตดาวเทียมเชิงพาณิชย์และอุปกรณ์ภาคพื้นดิน การผลิตจรวดเชิงพาณิชย์ และการขยายนวัตกรรมของการใช้งานดาวเทียม


รัฐบาลซงเจียงยังวางแผนจะขยายการสนับสนุนเชิงนโยบาย การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดหาพื้นที่ และการเสริมสร้างการแนะนําและพัฒนาผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง 


โดยตั้งเป้าที่จะปลูกฝังกิจการไฮเทคและ SME ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านมากกว่า 30 แห่ง ตั้งศูนย์นวัตกรรมการผลิตมากกว่า 5 แห่ง และจัดตั้งศูนย์บ่มเพาะคุณภาพสูงสถาบันวิจัยและพัฒนา ชุมชนนักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งยังจะมีบทบาทนําหรือมีส่วนร่วมในการกําหนดหรือแก้ไขมาตรฐานระดับชาติและอุตสาหกรรมในสาขาที่เกี่ยวข้องของอินเทอร์เน็ตดาวเทียมมากกว่า 5 มาตรฐาน


ประการสำคัญ รัฐบาลยังตั้งเป้าที่เต็มไปด้วยความท้าทายว่าเขตซงเจียงจะมีกำลังการผลิตดาวเทียมเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้นจากปีละ 50 ดวงในปี 2025 เป็นปีละ 300 ดวงในปี 2026 


หากบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ก็เท่ากับว่า ณ สิ้นปี 2026 จีนจะมีดาวเทียมในวงโคจรมากกว่า 600 ดวง และขนาดทางการตลาดของอุตสาหกรรมฯ พุ่งทะลุ 10,000 ล้านหยวน รวมทั้งจะมีธุรกิจและสถาบันที่เกี่ยวข้องนับ 100 แห่งที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างสวนอุตสาหกรรมฯ ที่มีลักษณะเฉพาะระดับท้องถิ่น และกลุ่มอุตสาหกรรม SME ระดับชาติ


นอกจากนี้ การประชุมยังนำไปสู่การลงนามในข้อตกลงด้านความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ว่าด้วยการพัฒนาระบบนิเวศคุณภาพสูงของอุตสาหกรรมฯ นี้จำนวนหลายฉบับ โดยมีองค์กรที่เกี่ยวข้องรวมกว่า 10 แห่งเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ อาทิ องค์กรภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา


ทั้งนี้ นับแต่ปี 2018 กิจการที่เกี่ยวข้องชั้นนำจำนวนมากต่างทยอยเข้าไปจดทะเบียนและก่อตั้งโรงงานผลิตสินค้าในห่วงโซ่อุตสาหกรรมฯ ในเขตซงเจียง 


อาทิ หยวนซินแซตเทลไลต์ (Yuanxin Satellite) และเก๋อซือแอโรสเปซ (GeSi Aerospace) รวมทั้งเชียนฟานคอนสเตลเลชัน (Qianfan Constellation) ที่ก่อสร้างโรงงานผลิตดาวเทียมดิจิตัล G60 และสายการผลิตดาวเทียมมาตรฐานแบบผลิตเป็นจำนวนมาก (Mass Production)


ในภาพใหญ่ เซี่ยงไฮ้ยังจะขยายการพัฒนาไปยังพื้นที่ใกล้เคียงและโครงการที่เกี่ยวข้อง อาทิ จิ๋วถิ่ง (Jiuting) เมืองในเขตซงเจียง และพื้นที่พิเศษหลินกั่ง (Lingang) รวมทั้งโครงการเมืองวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหลินกั่ง-ซงเจียง ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าจะนำไปสู่การพัฒนาคลัสเตอร์อุตสาหกรรมฯ ที่แข็งแกร่ง มีอิทธิพลสูง และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น


เห็นเซี่ยงไฮ้ “ออกตัวแรง” ในการพัฒนาอุตสาหกรรมอวกาศเชิงพาณิชย์เช่นนี้แล้ว ทำให้ผมเกิดความคิดว่า เห็นทีไทยจะต้องรีบประสานเพื่อจัดคณะผู้แทนภาครัฐและเอกชนไปเข้าร่วม “งานสัมมนานิเวศวิทยาอุตสาหกรรมอินเตอร์เน็ตผ่านดาวเทียม” ครั้งที่ 2 ที่เขตซงเจียงในปีหน้าซะแล้ว 


ตอนหน้า ผมจะขอย้อนพาไปส่อง “คลังสมอง” ด้านการบินและอวกาศของจีนกันครับ ...




แฟ้มภาพ reuters

ข่าวแนะนำ