สมาคมชาวจีนโพ้นทะเลโลกจัดประชุมยิ่งใหญ่ ส่งสัญญาณแรงไปทั่วโลก โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร
สมาคมชาวจีนโพ้นทะเลโลกจัดประชุมยิ่งใหญ่ ... ส่งสัญญาณแรงไปทั่วโลก โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน
เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา ขณะที่คนไทยกำลัง “หมกมุ่น” และ “วุ่นวาย” อยู่กับการเลือกตั้งทั่วไป จนกลบหลายเรื่องใหญ่ในเวทีโลก หนึ่งในนั้นก็ได้แก่ การประชุมของสมาคมชาวจีนโพ้นทะเลโลก (Overseas Chinese Association) วันนี้ ผมเลยขอเก็บตกสาระที่น่าสนใจมาแลกเปลี่ยนกันครับ ...
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา สื่อหลายสำนักของค่ายจีนและตะวันตกต่างเผยแพร่ข้อมูล “การประชุมสมัชชาเพื่อมิตรภาพ” แห่งสมาคมชาวจีนโพ้นทะเลทั่วโลก ครั้งที่ 10 (The 10th Conference for Friendship of OCA) ณ มหาศาลาประชาชน (Great Hall of the People) บริเวณจัตุรัสเทียนอันเหมิน (Tiananmen Square) ใจกลางกรุงปักกิ่ง
โดยระบุว่า การประชุมดังกล่าวมีพิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2023 โดยมีประธานาธิบดีสี จิ้นผิง (Xi Jinping) เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน เป็นประธาน
แหล่งข่าววงในยังระบุว่า ท่านสี จิ้นผิง และคณะเดินทางถึงสถานที่ประชุมในเวลา 10.30 น. และเดินทักทายตัวแทนชาวจีนโพ้นทะเลที่ยืนเรียงรายอยู่ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ท่ามกลางเสียงปรบมือยาวนานหลายนาที
หลังจากนั้น ท่านสี จิ้นผิง และผู้บริหารระดับสูงพรรคคอมฯ อาทิ หวัง ฮู่หนิง (Wang Huning) กรรมการกรมการเมืองถาวรและประธานสภาที่ปรึกษาทางการเมือง และไช่ ฉี (Cai Qi) อีก 1 ใน 7 โปลิตบูโรถาวรและผู้อำนวยการสำนักงานทั่วไปของคณะกรรมการกลางพรรคคอมฯ
รวมไปถึง หวัง อี้ (Wang Yi) กรรมการกรมการเมืองและผู้อำนวยการสำนักงานการต่างประเทศของงคณะกรรรมการกลางพรรคคอมฯ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ และเจี่ยง จั้วจุน (Jiang Zuojun) อีก 1 ใน 25 กรรมการกรมการเมืองของจีน ยังได้ให้เกียรติร่วมถ่ายภาพหมู่กับผู้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้อีกด้วย ซึ่งสะท้อนบรรยากาศการประชุมที่เปี่ยมไปด้วยความอบอุ่น
และที่น่าปลื้มใจก็คือ ในบรรดาผู้เข้าร่วมการประชุมเกือบ 500 คนจาก 130 ประเทศและภูมิภาค มีชาวจีนโพ้นทะเลจากไทยจำนวนหนึ่งได้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้
อาทิ เจ้าสัวธนินทร์ เจียรวนนท์ นายกสมาคมนักธุรกิจชาวจีนโพ้นทะเลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ท่านสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานหอการค้าไทยในจีน และประธานกรรมการเครือเจริญโภคภัณฑ์ และนายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานหอการค้าไทย-จีน ที่ล้วนยืนอยู่แถวหน้าในการต้อนรับผู้นำจีนและคณะ
อีกไฮไลต์หนึ่งของการประชุมก็ได้แก่ การกล่าวสุนทรพจน์ในช่วงพิธีเปิดของ สือ ไท่เฟิง (Shi Taifeng) กรรมการกรมการเมืองและประธานฝ่ายแนวร่วม (The United Front Work Department) แห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมฯ
“ชาวจีนโพ้นทะเลมีความได้เปรียบที่มีลักษณะเฉพาะในการหลอมรวมและเชื่อมโยงจีนกับชุมชนระหว่างประเทศ เป็นสะพานและสายสัมพันธ์สำคัญที่เชื่อมโยงจีนกับโลกภายนอก และเป็นกำลังสำคัญในการเสริมสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันแห่งมวลมนุษยชาติ” สือ ไท่เฟิง เปิดประเด็น
คำกล่าวท่อนหนึ่งของ สือ ไท่เฟิง ยังสะท้อนถึงความคาดหวังจากชาวจีนโพ้นทะเลว่าจะสามารถ “ร่วมมือ” และ “ประสานพลัง” เพื่อทำให้แนวความคิดในการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันแห่งมนุษยชาติเกิดเป็นรูปธรรม ส่งเสริมสันติภาพโลกและมิตรภาพระหว่างจีนกับประเทศอื่น พัฒนาการของโลก และความร่วมมือเชิงบวกอย่างจริงจัง
รวมทั้งยังแสดงถึงความปรารถนาที่อยากเห็นการแลกเปลี่ยนและเรียนรู้ด้านอารยธรรมระหว่างกันที่จะนำไปสู่ “บทใหม่” ของเส้นทางแห่งความกระชุ่มกระชวยครั้งใหญ่อีกครั้งของจีนและการเสริมสร้างประชาคมแห่งอนาคต
ผมขอเรียนว่า ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา พรรคคอมฯ ได้ให้ความสำคัญกับการประชุมสมาคมชาวจีนโพ้นทะเลโลกเป็นอย่างมาก โดยพรรคคอมฯ ได้กำหนดเป็น “นโยบาย” ที่จะต้องส่งเสริมและยกระดับกิจการชาวจีนโพ้นทะเลโลกเพื่อให้เป็น “ขุมพลัง” ที่มีความมุ่งมั่นร่วมกันในการฟื้นฟูความเจริญของจีน
นับแต่การประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมฯ ครั้งที่ 18 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้กำหนดยุทธศาสตร์เพื่อบรรลุการฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองอย่างยิ่งใหญ่ของจีน
โดยเสนอว่า “จีนที่เป็นเอกภาพและสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันคือรากเหง้าร่วมกัน วัฒนธรรมจีนที่ยิ่งใหญ่และลึกซึ้งเป็นจิตวิญญาณร่วมกัน และการฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองอย่างยิ่งใหญ่ของประชาชาติจีนคือความฝันร่วมกันของลูกหลานชาวจีนทั้งในและต่างประเทศ"
และยังตอกย้ำถึง “พลัง” แห่งความสามัคคีของชาวจีนโพ้นทะเลจำนวนมากและเครือญาติที่มีความใกล้ชิดกัน พรรคคอมฯ และรัฐบาลจีนจึงมีภารกิจสำคัญในการส่งเสริมให้เครือข่ายมีบทบาทอย่างแข็งขันในกระบวนการฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองอย่างยิ่งใหญ่ของจีน
นอกจากนี้ ในรายงานการประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมฯ ครั้งที่ 20 ก็ยังระบุว่า “ต้องส่งเสริมและยกระดับกิจการชาวจีนโพ้นทะเล เพื่อก่อรูปขึ้นเป็นขุมพลังที่มีความมุ่งมั่นร่วมกันในการฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติ”
ดังนั้น การประชุมในครั้งนี้จึงนับว่าเป็น “ก้าวย่าง” หนึ่งที่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะนอกจากการประชุมได้ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และถูกถ่ายทอดและกระจายข่าวออกไปทั่วโลกแล้ว ผู้นำจีนก็ยังให้เกียรติเดินทางไปเป็นประธานในพิธีด้วยตนเอง และพร้อมพรั่งด้วยผู้แทนระดับสูงของพรรคคอมฯ
และเมื่อพิจารณาจาก “แนวคิดหลัก” ของการประชุมในครั้งนี้ก็ยังตอกย้ำถึงการให้ความสำคัญอย่างยิ่งของพรรคฯ ต่อกิจการชาวจีนโพ้นทะเล และความมุ่งมั่นของจีนที่ต้องการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายชาวจีนโพ้นทะเลโลกในการเสริมสร้างความยิ่งใหญ่ของจีนและสันติสุขให้เกิดขึ้นในเวทีโลก
ซึ่งหากพิจารณาในอีกด้านหนึ่ง ความพยายามดังกล่าวอาจสะท้อนถึงความกังวลใจของจีนที่มี “ความขัดแย้ง” ในเวทีโลกที่เพิ่มขึ้น
ลองคิดดูว่า ขนาดจีนมีประชากรกว่า 1,400 ล้านคน แต่ก็ยังตระหนักถึงความสำคัญในการใช้องค์กรจีนโพ้นทะเลกว่า 20,000 แห่งที่กระจายอยู่ทั่วโลก และเสริมสร้างให้องค์กรเหล่านี้มีความเข้มแข็ง รวมทั้งเรียกร้องให้ชาวจีนโพ้นทะเลไม่ลืม “ความรัก” ที่ลึกซึ้ง และสนับสนุน “มาตุภูมิ” เมื่อโอกาสอำนวย
จีนยังพยายามบูรณาการทรัพยากรในทุกภาคส่วนให้เกิดประโยชน์ในวงกว้าง อาทิ การใช้วัฒนธรรม และอื่นๆ เป็นกลไกในการขับเคลื่อนสิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน ความพยายามต่างๆ เหล่านี้ทำให้เกิด “ความผูกพัน” เชิงสายเลือด จึงไม่น่าแปลกใจที่เราเห็นว่าทำไมคนจีนนับล้านคนกลับไปทำงานและใช้ชีวิตที่จีนในยุคหลังนี้
ประการสำคัญ สิ่งเหล่านี้ยังเป็นการแสดงถึง “ความเป็นปึกแผ่น” ของชาวจีนในแผ่นดินใหญ่และโพ้นทะเลทั่วโลกอย่างเห็นได้ชัด และสะท้อนถึง “พลัง” ทางเศรษฐกิจและการเมืองของชาวจีนที่กระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลกอีกด้วย
ไทยเราเองก็ควรใช้เวลา “เรียนลัด” จากเรื่องนี้เช่นกัน ...