ส่องโอกาสลงทุน DR จับกระแสชิป อิงตลาดหุ้นไต้หวันเติบโต
วันนี้ (17 ม.ค.) ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดขาย DR ใหม่ 2 หลักทรัพย์ เพื่อเป็นทางเลือกในการเพิ่มโอกาสการลงทุนของผู้ลงทุนไทยทีจะเติบโตไปกับกระแสชิป AI ที่ทางประทศไต้หวันเป็นผู้ผลิตและพัฒนาที่สำคัญของตลาดโลกทียังเติบโตได้อีกมาก ซึ่งการซื้อขาย DR ในตลาดหุ้นไทยปัจจุบันเติบอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีมูลค่าหลักทรัพย์รวมอยู่ที 3 หมื่นล้านบาท จาก DR ที่มีให้เลือกลงทุนรวม 67 หลักทรัพย์
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้เปิดขาย ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ หรือ Depositary Receipt หรือ DR ซึ่งออกโดยบริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ (ประเทศไทย) พร้อมกันถึง 2 หลักทรัพย์ คือ กองทุนKGI Taiwan Premium Selection AI 50 ETFหรือ TAIWANAI13 (อ่านวา ไต้-หวัน-เอ-ไอ-หนึ่ง-สาม) และ กองทุน KGI Taiwan Premium Selection High Dividend 30 ETF หรือ TAIWANHD13 (อ่านว่า ไต้-หวัน-เอช-ดี-หนึ่ง-สาม) ซึ่งจะเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯในวันนี้ (17 ม.ค.) เป็นวันแรก
นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ หรือ DR เป็นทางเลือกในการลงทุนที่ได้รับความสนใจเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดย ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2567 DR มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (Market Capitalization) อยู่ที่ ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับประมาณ 1 หมื่น 7 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 70 โดยปัจจุบันมีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของ DR อยู่ที่ประมาณ 245 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ระดับ 134 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 80 ทั้งนี้ในปัจจุบันมี DR จดทะเบียนทั้งสิ้น 65 หลักทรัพย์ และเมื่อรวม 2 ตัวทีเปิดตัววันนี้จะมีทั้งสิ้น 67 หลักทรัพย์ แบ่งเป็น DR ที่อ้างอิงกับทั้งหุ้นรายตัว และ ETF ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาคเอเชีย ยุโรป และอเมริกา
ทั้งนี้ DR เป็นอีกโอกาสสำคัญของผู้ลงทุนไทยที่จะมีทางเลือกในการลงทุนหุ้นเทคโนโลยีและหุ้นปันผลของไต้หวันผ่าน DR ที่อ้างอิงกับกองทุนอีทีเอฟไต้หวัน โดย KGI Taiwan Premium Selection AI 50 ETF นั้นลงทุนในหุ้น 50 บริษัทที่มีรายได้หลักจากธุรกิจ Artificial Intelligence หรือ AI โดยคัดเลือกหุ้นตามมูลค่าราคาตลาดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน // ส่วน KGI Taiwan Premium Selection High Dividend 30 ETF นั้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ 30 ตัวในไต้หวันที่มีผลกำไรดีและจ่ายเงินปันผลสูงต่อเนื่อง ซึ่งนับว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการกระจายพอร์ตลงทุนไปยังต่างประเทศ
นาย จื้อ-หง หลิน กรรมการอำนวยการ กรรมการอำนวยการ หลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า DR ทั้ง 2 หลักทรัพย์ เป็นโอกาสการลงทุนไปกับการเติบโตของอุตสาหกรรม AI ของโลกเหมาะกับการลงทุนระยะยาวไปกับเศรษฐกิจไต้หวันที่ GDP เติบโตได้ที่ร้อยละ 4-5 ต่อปี ส่งผลให้นิตยสาร Forbes จัดให้ไต้หวันเป็นประเทศที่มีความร่ำรวยอันดับที่ 14 ของโลก ซึ่งไต้หวันถือว่าเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญของโลกใน AI Supply Chain เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีผลิตชิพ Semiconductor นำโดยบริษัท TSMC ที่ผลิตชิพประมวลผลที่ทันสมัยที่สุดในโลก
ด้าน นายเจนวิทย์ ชินกุลกิจนิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายธุรกิจตราสารอนุพันธ์ หลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า TaiwanAI13 เป็น DR ที่ลงทุนในกองทุนอีทีเอฟ ที่เน้นลงทุนในหุ้นแนวหน้าของยุคแห่ง AI Revolution โดยจะลงทุนในบริษัทที่พัฒนาและผลิตอุปกรณ์ชิพที่ใช้ขับเคลื่อนการประมวลผลของ AI เน้นที่หุ้น AI โดยตรง ขณะที่TaiwanHD13 เป็น DR ที่ลงทุนในกองทุนอีทีเอฟ โดยจะเน้นลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวเนื่องกับ AI มุ่งที่หุ้นขนาดใหญ่ปันผลสูงในไต้หวัน และได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจที่เติบโตของไต้หวัน โดยปีที่ผานมามีปันสูงถึงร้อยละ 12 สำหรับการออก DR ในระยะถัดไปยังมีแนวโน้มจะออกอีก 2-3 หลักทรัพย์ โดยจะดูเวลาทีเหมาะสมอีกครั้ง คาดจะยังลงทุนในไต้หวันและฮ่องกง
"ไต้หวันเป้นประเทศเดียวในเอเชียทีสามารถขึ้นได้แรงกว่าตลาดหุ้นอเมริกานะค้าบ เพราะฉะนั้นสาเหตุที่ขึ้นแรงก็เพราะว่าไต้หวันเองเรียกได้วาเป็นประเทศที่บีไฮเดอะซีน AI ซัพพลายเชน ไมใช่การการผลิตชิปที่ใหญ่ทีสุดในโลก แต่พูดถึงหน่วยความจำ แผงวงจน แล้วก็การประกอบชิป ทั้งหมดเรียก AI ซัพพลายเชน ซึ่งไต้หวันเป็นประเทศที่ได้รับประโยชน์ตรงนี้เต็มที่เลย เป็นที่มาในการออก DR 2 ตัว คือ TaiwanAI13 และ TAIWANHD13 เพื่อให้ตอบโจทย์นักลงทุนว่านักลงทุนอยากลงทุนในไต้หวันนะ อันนี้เป็นทางเลือก " นายเจนวิทย์ กล่าว
ข่าวแนะนำ