ตลาดหลักทรัพย์ฯ เล็งเปิดข้อมูลจำนำหุ้นใน TSD เพิ่มเติม
ตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาเปิดเผยข้อมูลหลักทรัพย์ที่นำไปวางเป็นประกันการชำระหนี้ในบัญชีมาร์จิ้นผ่านระบบ TSD เพิ่มเติม คาดเห็นความคืบหน้าภายในเดือนก.พ. 2568 ด้าน RS แจงต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เพิ่มเติมยันไมกระทบต่อผลการดำเนินงาน
นายรองรักษ์ พนาปวุฒิกุล รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานกฎหมาย และโฆษก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาที่จะรวบรวมข้อมูลการจำนำหุ้นผ่านระบบศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ TSD มาเปิดเผยให้ผู้ลงทุนได้รับทราบ ซึ่งรูปแบบจะคล้ายกับการรายงานหลักทรัพย์ที่วางเป็นประกันการชำระหนี้ในบัญชีมาร์จิ้น (มาร์จิ้น โลน) ซึ่งปัจจุบันมีการเปิดเผยเป็นลักษณะรายเดือน พร้อมคาดว่าจะมีความคืบหน้าภายในเดือนก.พ. 2568 นี้
ทั้งนี้ ยอมรับว่าการจำนำหุ้นก็เป็นปัญหาที่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ และสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เห็นกันอยู่ ซึ่งมีการหารือกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อสามารถทำหน้าที่กำกับดูแลและออกมาตรการมาช่วยเหลือเพิ่มเติม ซึ่งปัจจุบันก็อยู่ระหว่างศึกษากรณีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ดี การเปิดเผยข้อมูลการจำนำหุ้นอาจไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมด แต่เป็นการช่วยให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการลงทุนมากขึ้น โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ อยากให้บริษัทจดทะเบียน หรือ บจ. โฟกัสที่การทำธุรกิจของตัวเองมากกว่า เพราะการนำหุ้นไปจำนำไม่รู้ว่าผู้บริหารไปโฟกัสที่ตรงไหน
โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำหน้าที่กำกับดูแลบริษัทจดทะเบียนควบคู่การเปิดข้อมูลต่างให้แก่นักลงทุนเพื่อประกอบการตัดสินใจในการลงทุนหุ้นตัวนั้นๆ ส่วนกรณีหุ้นบมจ.อาร์เอส หรือ RS ที่ปรับตัวลดลงแรง 2 วันติดต่อกันนั้น จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า มีการนำหุ้นไปวางเป็นหลักประกันมาร์จิ้นโลนจำนวน 222 ล้านหุ้น มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท แต่ปัจจุบัน ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังไม่ได้มีการส่งหนังสือไปยังบริษัทให้มีการชี้แจงแต่อย่างใด เนื่องจากการนำหุ้นไปวางเป็นหลักประกันมาร์จิ้นโลนถือเรื่องของผู้ถือหุ้นเอง และหุ้นถือเป็นสินทรัพย์ส่วนบุคคลจะนำไปทำเช่นไรก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคล
โดลล่าสุด วันนี้ หุ้น RS ปิดตลาดที่ระดับ 1.81 บาท/หุ้น ลดลงร้อยละ 30.38 เป็นการปรับดิ่งฟลอร์ 3 วันติดต่อกัน ส่งผลให้มาร์เก็ตแคปลดลงไปประมาณ 6,110.21 ล้านบาท
และล่าสุด เย็นวันนี้ (เวลาประมาณ 17.12 น.) RS ได้ชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ถึงพัฒนาการที่สำคัญของบรษิษัทฯ เพิ่มเติม เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับผู้ลงทุนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง จากการตรวจสอบของบริษัทฯ พบว่า ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเกิดจากธุรกรรมทางการเงินส่วนบุคคลของผู้บริหาร ซึ่งใช้หุ้นจำนวนหนึ่งเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันสำหรับธุรกรรมทางการเงินส่วนบุคคล เมื่อราคาหุ้นปรับลดลง จึงเกิดการขายหลักทรัพย์ตามเงื่อนไข (Forced sell) ขณะที่อีกสาเหตุหนึ่งเกิดจากปัจจัยภายนอกและกลไกตลาด
โดยบริษัทฯ ขอยืนยันว่าธุรกรรมดังกล่าวที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน และสถานะทางการเงินของบริษัทฯ รวมทั้งไม่มีปัจจัยภายในที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ และบริษัทฯ ยังเดินหน้าตาวิสัยทัศน์และแผนกลยุทธ์ที่วางไว้
ทั้งนี้คณะกรรมการบริษัทฯ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของเสถียรภาพในการบริหารและความมั่นคงของบริษัท และอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อออกมาตรการและทบทวนนโยบายการกำกับดูแลกิจการตามหลักธรรมาภิบาล รวมถึงการปรับปรุงนโยบายการบริหารความเสี่ยง เพื่อป้องกันเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกัน และเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสียในอนาคต หากบริษัทฯ มีพัฒนาการที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจที่สำคัญใดๆ จะแจ้งให้นักลงทุนทราบผ่านช่องทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป
ข่าวแนะนำ