TNN ต้นปี 68 ทองขึ้นลงในกรอบแคบ 2,604-2,642 ดอลลาร์

TNN

รายการ TNN

ต้นปี 68 ทองขึ้นลงในกรอบแคบ 2,604-2,642 ดอลลาร์

 ต้นปี 68 ทองขึ้นลงในกรอบแคบ 2,604-2,642 ดอลลาร์

YLG คาดการณ์ราคาทองคำในตลาดโลกในระยะสั้นๆ ในต้นปี 2568 ยังแกว่งในกรอบแคบ ส่วนระยะยาวทั้งปี 2568 ยังเป็นขาขึ้นและมีลุ้นทำสถิติสูงสุดใหม (นิวไฮ) ถ้าผ่าน 2,790 ดอลลาร์/ออนซ์ มีโอกาสเห็น 2,800 -3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ชี้บิตคอยน์ยังไม่สามารถแทนทีทองคำในทุนสำรองของธนาคารกลางทั่วโลก แม้รัสเซียจะผลักดันใช้ในทุนสำรองแทนดอลลาร์

นายวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทวายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จํากัด (YLG) เปิดเผยว่า ทิศทางทองคำในตลาดโลกในระยะสั้นๆ ปลายปี 2567 ถึงต้นปี 2568 นี้ยังน่าจะแกว่งในกรอบแคบ ขึ้นได้ก็ไม่มาก หรือจะลดลงก็ลดไม่มากเช่นกัน เนื่องจากในช่วงใกล้วันหยุดปลายปีขึ้นปีใหม่ปริมาณการซื้อขายจะบางเบา  ทั้งนี้ ทองยังมีปัจจัยกดดันจากทิศทางดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะลดดอกเบี้ยน้อยกว่าที่ตลาดคาดในปี 2568 โดยยังต้องติดตามนโยบายของ ว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ด้วย


ขณะที่ปัจจัยสนับสนุนทองคำยังต้องติดตามดีมานด์หรือความต้องการถือทองคำที่จะเพิ่มขึ้นในจีน หลังสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ทางการจีนได้ไฟเขียวออกพันธบัตรรัฐบาลพิเศษวงเงิน 3 ล้านล้านหยวน (ราว 4.11 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปี 2568 เพื่อจะนำเงินมากระตุ้นเศรษฐกิจ หากเกิดขึ้นจริงจะเพิ่มความต้องการถือทองในระยะต่อไปได้ รวมถึงสถานการณ์ความร้อนแรงในตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลและเลบานอนที่เกิดขึ้นในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมาที่จะช่วยพยุงราคาทองคำในประเทศไม่ให้ปรับลดลง และความขัดแย้งสหรัฐและรัสเซียสะท้อนจากการลดใช้เงินดอลลาร์มาใช้คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) แทนดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งความขัดแย้งดังกล่างยังช่วยพยุงราครทองคำโลกเช่นกัน 


ส่วนประเด็นที่รัสเซียจะพิจารณานำคริปโทเคอร์เรนซีมาใช้ในทุนสำรองแทนดอลลาร์สหรัฐนั้น หากเกิดขึ้นจะกดดันราคาทองคำ เพราะจะไปลดดีมานด์ทองคำของธนาคารกลางทั่วโลกที่เดิมถือทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศได้ แต่ YLG มองว่าการที่ธนาคารกลางทั่วโลกจะถือคริปโทเคอร์เรนซี แทนทองคำเกิดขึ้นได้ยาก เพราะสินทรัพย์คริปโทเคอร์เรนซีแตกต่างจากทองคำ


สำหรับการการลงทุนทองคำในตลาดโลก หากราคาย่อลงก็เป็นโอกาสทยอยสะสม โดยคาดการณ์กรอบราคาในระยะ 1-2 สัปดาห์นี้ คาดแนวต้ายที่ระดับ 2,642  ดอลลาร์/ออนซ์ และแนวต้านถัดไปที่ 2,664 ดอลลาร์/ออนซ์  และหากสามาถทะลุผ่านระดับ 2,790 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับ All Time High หรือ ทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ ทองคำในปี 2568 มีโอกาสเห็นระดับ 2,800-3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ และทองคำในประเทศยังมีโอกาสเห็น 50,000 บาทต่อบาททองคำ การย่อลงมในระดับปัจจุบันแถวๆ 2,634 ดอลลาร์/ออนซ์ ถือว่าเสียทิศทางขาชึ้นแต่อย่างใด 


ส่วนแนวรับในระยะสั้นมองที่ระดับ 2,604 ดอลลาร์/ออนซ์ และนวรับถัดไปที่ 2,582 ดอลลาร์/ออนซ์ แนะทยอยซื้อเพื่อทำกำไรระยะสั้น ส่วนแนวรับรอบใหญ่ในปี 2568 เพื่อถือลงทุนรอกkรปรับขึ้น หากเห็นระดับ 2,470 -2,450 ดอลลาร์/ออนซ์ แนะนำให้เข้าซื้อสะสมการลงทุนเช่นกัน 

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง