ทรัมป์เสนอ Chris Wright รมว.พลังงาน ทิศทางหุ้นกลุ่มพลังงานโลก?
KTAM แนะเพิ่มน้ำการลงทุนในหุ้นพลังงานและน้ำมัน รองรับนโยบายการสนับสนุนของทรัมป์ ที่จะหนุนรายงานบริษัทจดทะเบียในกลุ่มนี้ ทั้งในแง่ราคาและปริมาณการผลิตที่สูงขึ้น ขณะเดียวกันกันก็แนะให้ขายทำกำไรลดพอร์ตบิตคอยน์
นายณัฏฐะ มหัทธนา, CFA ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM เปิดเผยว่า การจัดตั้งคณะรัฐมตรีล่าสุด ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ มีเสนอชื่อ Chris Wright ซีอีโอบริษัท Liberty Energy ผู้ประกอบธุรกิจขุดน้ำมันแบบ fracking* หรือ Shale Oil เพื่อให้วุฒิสภาพิจารณาเพื่อดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีพลังงาน การเสนอชื่อดังกล่าว สอดคล้องกับนโยบายขยายอุตสาหกรรมพลังงานฟอสซิล เพื่อลดค่าเชื้อเพลิงและเงินเฟ้อ ซึ่งหากครม.เป็นไปตามนี้ ก็มองว่าน่าจะเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน(น้ำมันและแก๊ส)
แต่ในอีกด้านก็มีมุมมองที่่มีการถกเถียงกัน ว่าถ้ามีการผลิตจำนวนมากราคาน้ำมันและแก๊สอาจจะตกลงมา ทำให้หุ้นกลุ่มนี้อาจจะไม่น่าลงทุน แต่ประเด็นมองว่าเป็นการมองด้านเดียว เพราะแม้ทรัมป์จะมีอุปทานหรือการผลิตที่เพิ่มขึ้น แต่อีกด้านทรัมป์ก็มีดูเหมือนจะพยามไปควบคุมการผลิตของอิหร่านที่่เข้มงวดขึ้น จากเดิมในสมัยประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้มีการผ่อนคลายให้อิหร่านผลิตน้ำมันได้มากขึ้นและไปขายให้แก่จีนได้ ดังนั้น การควบคุมก็จะมาชดเชยการผลิตของสหรัฐได้ส่วนหนึ่ง
นอกจากนี้ ในฝั่งความต้องการใช้ หรือดีมานด์ ทรัมป์ก็ยังสนับสนุนการใช้พลังงานในรูปแบบดั้งเดิม (traditional energy) ซึ่งน่าจะเห็นการจัดทำประมาณการณ์กันใหม่ ทำให้ปริมาณการใช้น้ำมันสูงสุดไม่พีค (เพิ่มขึ้นสูงสุด) และทำให้ปริมาณการใช้สมดุล
ขณะเดียวกันสหรัฐก็มีคลังสำรองเชิงยุทธศาสตร์ ที่ในสมัยไบเดนมีการใช้ออกไปค่อนข้างมากในระหว่างสงครามในยูเครนและความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ทำให้ต้องเติมน้ำมันเข้าคลังสำรองทดแทนด้วย ซึ่งปริมาณคลังสำรองน้ำมันยังต่ำกว่าในอดีตอยู่ 200 ล้านบาร์เรล ซึ่งทรัมป์เน้นย้ำถึงความมันคงทางพลังงานจึงน่าจะเห็นการซื้อน้ำมันเติมคลังสำรองเชิงยุทธศาสตร์ต่อไป ซึ่่งเบื้องต้นมองว่าดีมานด์น้ำมันไม่น่ามีปัญหาเศรษฐกิจน่าจะเดินหน้าต่อ จึงมองว่าราคาน้ำมันน่าจะขยับขึ้นจากปัจจุบันจากระดับปัจจุบันขึ้นไปราวๆ 80-90 ดอลลาร์/บาร์เรล ที่เป็นระดับดุลยภาพ ทำให้มีอัพไซต์ต่อราคาพลังงานและหุ้นในกลุ่มพลังงานด้วย จึงมองว่าน่าสนใจที่จะเข้าลงทุน
โดยการลงทุนมีกองทุนที่ลงทุนเกี่ยวข้องพลังงานใน 2 ส่วน คือ กองทุนที่ลงทุนในน้ำมันและกองทุนที่ลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งมีความน่าสนใจทั้ง 2 ประเภท จากราคาน้ำมัน น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ปัจจุบันอยู่ระดับ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล ขึ้นไปที่ 80-90 ดอลลาร์/บาร์เรล จึงน่าจะเห็นอัพไซต์ราวๆ ร้อยละ 10 และในระยะยาวออกไการลงทุนกลุ่มนี้ยังน่าลงทุนในแง่กฎระเบียบด้านพลังงานฟอสซิลของสหรัฐมีแนวโน้มผ่อนคลายภายใต้รัฐบาลทรัมป์
เป็นปัจจัยบวกสำหรับผลประกอบการบริษัทในอุตสาหกรรมพลังงานรูปแบบดั้งเดิม ซึ่งการลงทุนจะได้สองส่วนคือ ราคาที่่เพิมและปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นนำไปสู่รายได้และกำไร รวมทั้งการปันผลที่จะเพิ่มขึ้นด้วย จึงน่าสนใจลงทุนข้ามไปถึงปี 2568 ด้วย ซึ่งแนะนำกองทุนหลักในต่างประเทศของ KT-ENERGY มีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน สำหรับการจัดพอร์ตแนะนำให้ขายทำกำในกลุ่มบิตคอยน์ รวมไปถึงหุ้นจีนที่รอมาตรการกระตุ้นและแนวโน้มการเติบโตที่น่าจะฟื้นขึ้นได้ต่อเนื่องในปีหน้า และเพิ่มการลงทุนในกลุ่มพลังงานเข้ามาเพิ่มเติม
ข่าวแนะนำ