หุ้นลุ้นได้บวก รัฐเคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2
การประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจนัดแรกวันนี้ (19 พ.ย.) ที่ประชุมเคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 แก่คนอายุเกิน 60 ปี ราว 4 ล้านคน โดยจะได้รับเงินก่อนตรุษจีนปีหน้า พร้อมกับมีมาตรการพักดอกเบี้ยแก้หนี้ใน 3 กลุ่ม
คณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจนัดแรก เคาะเดินหน้าแจกเงินหมื่นเฟส 2 ให้กลุ่มผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี ราว 3-4 ล้านคน โดยเป็นการแจกเงินสดเหมือนเฟสแรกที่ให้ให้แก่กลุ่มเปราะบาง คาดใช้วงเงินราว 40,000 ล้านบาท เบื้องต้นจะได้เงินไม่เกินตรุษจีนปี 2568 ส่วนเฟสถัดไป คาดว่าจะดำเนินการได้ในเดือนเม.ย.-มิ.ย.ปีหน้า เนื่องจากต้องรอทบทวนรายละเอียดและรอระบบให้พร้อมก่อน
นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ยังเห็นชอบหลักการปรับโครงสร้างหนี้ครัวเรือนใน 3 กลุ่ม ได้แก่ บ้าน รถยนต์ และหนี้เพื่อการบริโภค โดยให้มีการพักชำระดอกเบี้ย 3 ปี เพื่อบรรเทาภาระในช่วงแก้ไขปัญหา
ด้านมุมมองการลงทุน หลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินว่า การที่คณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจพิจารณาในเชิงหลักการหลายประเด็น คาดหลังจากนี้จะมีความคืบหน้ามากขึ้น โดยเฉพาะมาตรการแก้หนี้ครัวเรือน ส่วนมาตรการกระตุ้นการบริโภคปลายปี จะพิจารณาเพิ่มเติมในแต่ละกระทรวงเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่อีกครั้ง ซึ่งยังมองเป็นบวกต่อ Domestic Play ทั้งค้าปลีก ไฟแนนซ์ และอาหารเครื่องดื่ม จากประเด็นดังนี้
1) แจกเงินหมื่นเฟส 2 ให้กลุ่มคนที่มีอายุ 60 ปี คาด 3-4 ล้านคน ใช้งบ 3-4 หมื่นล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.8 ของ GDP รายไตรมาส คาดว่าจะแจกได้ไม่เกินตรุษจีน หรือ 29 ม.ค. 2568 ส่วนการแจกเงินเฟส 3 จะดำเนินการผ่าน Digital Wallet ในเดือน เม.ย. 2568
2) รับหลักการแก้หนี้ที่มีปัญหาไม่เกิน 1 ปี ทั้งบ้าน รถยนต์ และหนี้บริโภครวม 1.2-1.3 ล้านล้านบาท โดยเว้นดอกเบี้ย 3 ปี และอาจพิจารณาลดเงินต้นในการผ่อนชำระลง
3) ช่วยภาคการเกษตร ในการดูแลค่าครองชีพผ่านโครงการไร่ละพัน
4) อสังหาริมทรัพย์เพื่อผู้มีรายได้น้อย กำลังอยู่ในช่วงพิจารณา เพื่อกระตุ้นทั้งการก่อสร้างและยกระดับสังคม
ขณะที่หลักทรัพย์ เอเซีย พลัส ประเมินว่า แจกเงินดิจิทัลเฟส 2 ชงเคาะเข้าครม.19 พ.ย.นี้ ความคืบหน้าการแจกเงินดิจิทัลเฟส 2 ล่าสุด รมช.คลังเผยว่าเตรียมนำนโยบาย ดังกล่าว โดยจะเป็นการรับเงินสดก้อนเดียว 10,000 บาท เสนอต่อที่ประชุม ครม. 19 พ.ย.นี้ ซึ่งรัฐบาลได้เตรียมเงินไว้แล้ว 1.8 แสนล้านบาท ส่วนกลุ่มที่จะได้รับเงินนั้น คาดว่าจะมีช่วงอายุ 50 ปีหรือ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งมองว่ากลุ่มผู้สูงอายุ เป็นกลุ่มที่มีความเหมาะสม เพราะเป็นกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อนมากกว่ากลุ่มอื่น มีความสามารถในการหารายได้ที่ต่ำกว่ากลุ่มอื่น อย่างไรก็ตามกลุ่มดังกล่าวจะต้องเป็นผู้ที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ” เท่านั้น และกลุ่มเปราะบางที่ได้รับเงินในเฟสแรก ไปแล้วจะถือว่าหมดสิทธิ์
จากประเด็นดังกล่าว รมช.คลังคาดจะเป็นตัวชูโรงให้ ตัวเลข GDP ในไตรมาส 4/2567 จะโตอยู่ที่ระดับร้อยละ 4.3-4.4 เทียบปีก่อนหน้า เสริมด้วยการอัดฉีดหลายมาตรการกระตุ้นที่เตรียมไว้ในช่วงปลายปีส่วนหุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์และ SENTIMENTเชิงบวก คือ กลุ่มเกษตร-อาหาร CPF CBG OSP ICHI M ,กลุ่มค้าปลีก CPALL CRC BJC CPAXT และกลุ่มเช่าซื้อ MTC SAWAD
ข่าวแนะนำ