หุ้นรับอานิสงส์ GDP ปีหน้าจ่อโตร้อยละ 3.3
สภาพัฒน์ฯ รายงาน GDP ไตรมาส 3 ปีนี้เติบโตที่ร้อยละ 2.3-3.3 จากการลงทุนที่จะสูงสุดขึ้น การใช้จ่ายภาครัฐ การท่องเที่ยว และการบริโภคที่ขยายตัวดีจากอัตราว่างงานต่ำ แต่ขณะเดียวกันความเสี่ยงที่สูงขึ้นด้วย
คุณดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3/67 ขยายตัวร้อยละ 3.0 เทียบปีก่อน (y-y) เร่งตัวขึ้นจากร้อยละ 2.ในไตรมาส 2/67 โดยขยายตัวจากแรงหนุนสำคัญ คือ บริโภคภาคเอกชนขยายตัวร้อยละ 3.4 //การอุปโภคภาครัฐบาลขยายตัวร้อยละ 6.3 //การลงทุนภาครัฐ ขยายตัวร้อยละ 25.9 // การส่งออกสินค้าขยายตัวร้อยละ 8.3 ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนเป็นแรงฉุดรั้งสำคัญ หลังลดลงร้อยละ 2.5 ซึ่งในไตรมาส 4 ปีนี้เศรษฐกิจไทยก็ยังน่าจะขยายตัวได้ต่อเนื่องของการท่องเที่ยวและส่วนหนึ่งจากผลของเงิน 1 หมื่นบาทที่แจกให้กับกลุ่มเปราะบาง
สำหรับ ทิศทางเศรษฐกิจไทยในปี 68 สภาพัฒน์ ฯ คาดว่าจะขยายตัวได้ที่ร้อยละ 2.3-3.3 (ค่ากลางที่ร้อยละ 3.0) ปัจจัยหนุนสำคัญคาดว่าจะมาจากการใช้จ่ายภาครัฐ อุปสงค์ในประเทศ ที่การลงทุนภาคเอกชนซึ่งได้รับการส่งเสริมจาก BOI จะมีการเร่งรัดให้ลงทุนเร็วขึ้น ขณะที่การบริโภคในประเทศก็ดีจากตลาดแรงงานดี อัตราการวางงานต่ำ ส่วนการท่องเที่ยวก็ยังปรับตัวดีขึ้น รวมถึงการส่งออกที่น่าจะยังดี โดยเฉพาะกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ดีตามกระแสเซมิคอนดักเตอร์
อย่างไรก็ดี สภาพัฒน์ ฯ มองว่าในปีหน้ายังมีปัจจัยความท้าทายที่ต้องเตรียมการรับมือ คือ การผลักดันให้ส่งออกโตได้ต่อเนื่อง การเตรียมพร้อมรับมือกับมาตรการกีดกันทางการค้า การเร่งรัดเบิกจ่ายตามเป้าหมาย การดูแลระดับหนี้สินครัวเรือนที่สูง และติดตามราคาสินค้าเกษตรสำคัญที่อาจถูกกระทบจากผู้ผลิตประเทศสำคัญที่จะผลิตออกมามากขึ้น รวมทั้งค่าเงินบาทที่น่าจะผันผวน
หลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินแนวโน้มการลงทุนหลังไตรมาส 3/67 ที่ขยายตัวได้ร้อละ 3.0 สูงกว่าตลาดคาดที่ร้อยละ 2.4 มาจากการบริโภคที่ยังโตได้แม้ฐานสูง และยอดส่งออก รวมทั้งการใช้จ่ายภาครัฐที่เร่งตัวขึ้น ถือเป็น Sentiment เชิงบวกต่อ Domestic Play เช่น KBANK, CPALL, CPAXT, SAWAD, TIDLOR, OSP ขณะที่ แนวโน้ม GDP ปีหน้าสภาพัฒน์คาดโตร้อยละ 2.3-3.3 จากการใช้จ่ายของภาครัฐเป็นหลักนั้น มองเป็นปัจจัยบวกเชิง Sentiment ต่อ TASCO และกลุ่ม SI เช่น SAMART, BBIK, SECURE, SYMC เป็นต้น
ด้านหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) มองว่า GDP ไตรมาส 3/67 ที่เร่งตัวขึ้นจากไตรมาส 2/67 และขยายตัวได้สูงกว่าที่ตลาดคาด กอปรกับเป็นการขยายตัวเกือบทุกองค์ประกอบของ GDP ทางด้านรายจ่าย อีกทั้ง ภาพเศรษฐกิจไทยในปีหน้าที่มีแนวโน้มเร่งขึ้นจากปีนี้้ เป็นการสะท้อนถึงเศรษฐกิจไทยที่ยังอยู่บนเส้นทางการของการฟื้นตัว มองเป็น Sentiment ทางบวกต่อ SET Index โดยเฉพาะหุ้นที่กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับภาคส่วนที่มีการขยายตัวและยังคงมีแนวโน้มที่ดีในระยะข้างหน้า โดย Top pick: 1) การบริโภคภาคเอกชน - CPALL, CPAXT, KTC // 2) การใช้จ่ายภาครัฐ - CK, KTB, STECON // 3) การส่งออกสินค้า - CCET, CPF, DELTA, GFPT, HTECH // และ 4) การส่งออกบริการ - AAV, AOT, BA, CENTEL, ERW, MINT
ข่าวแนะนำ