TNN PTTEP โค้งท้ายเป้ายอดขาย 5.3 แสนบาร์เรล เปิดเผนธ.ค.นี้

TNN

รายการ TNN

PTTEP โค้งท้ายเป้ายอดขาย 5.3 แสนบาร์เรล เปิดเผนธ.ค.นี้

PTTEP โค้งท้ายเป้ายอดขาย 5.3 แสนบาร์เรล เปิดเผนธ.ค.นี้

PTTEP วางเป้าปริมาณขายไตรมาส 4/67 ไว้ที่ 5.2-5.3 แสนบาร์เรลฯ เตรียมประกาศแผนลงทุน 5 ปีกลางธ.ค.ปีนี้ คาดยังคงการลงทุนที่ 6,000-7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี

นางสาวอารดา วิชญวาณิช ผู้จัดการ แผนกนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ. ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดปริมาณขายปิโตรเลียมในไตรมาส 4/67 จะอยู่ที่ 520,000-530,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/67 ที่ 475,078 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ส่วนด้านต้นทุนต่อหน่วย (Unit Cost) คาดว่าจะลดลงจากงวดไตรมาส 3/67 ที่อยู่ระดับ 31.9 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล


ราคาน้ำมันดิบในตลาดดูไบช่วงไตรมาส 4/67 คาดจะอยู่ที่บริเวณ 75-85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากไตรมาส 3/67 เฉลี่ยอยู่ระดับ 79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังแนวโน้มเศรษฐกิจประเทศจีนฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด และอัตราดอกเบี้ยในประเทศตะวันตก ปัจจุบันยังอยู่ในระดับสูง อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกในระยะยาว และความต้องการใช้น้ำมันดิบ ทำให้สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกปีนี้ลดลงเหลือ 9 แสนบาร์เรลต่อวัน จากเดิมที่ 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน


ด้านอุปทานแนวโน้มน้ำมันดิบ มีความตึงตัวมากขึ้นในช่วงไตรมาส 4/67 เนื่องจากกลุ่มโอเปกยังคงปริมาณการผลิตไปจนถึงเดือน พ.ย.67 นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลต่อทิศทางราคาน้ำมันดิบ เช่น การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐ และสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง เป็นต้น คาดกระทบต่อซัพพลายน้ำมันดิบ


ส่วนราคา LNG ในครึ่งปีหลังนี้ น่าจะไม่กลับไปสูงเหมือนในปี 66 โดย PTTEP คาดการณ์ Spot LNG ทั้งปีนี้จะเฉลี่ยอยู่ที่ 12 ดอลลาร์สหรัฐต่อล้านบีทียู


ผู้จัดการ แผนกนักลงทุนสัมพันธ์ PTTEP กล่าวต่อว่า บริษัทฯ คาดปริมาณขายปิโตรเลียมทั้งปี 67 จะเฉลี่ยอยู่ที่ 501,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้น 40,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน จากปีก่อนอยู่ที่ 462,007 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน จากการเพิ่มปริมาณการผลิตของโครงการ G1/61


ส่วนราคาขายก๊าซธรรมชาติ จะยังรักษาให้อยู่ที่ระดับ 5.9 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนหน้า เป็นไปตามเทรนด์ราคาน้ำมันในตลาดโลก รวมถึงราคาก๊าซฯ ในอ่าวไทยต่ำกว่าในระบบสัมปทานเล็กน้อย ด้านต้นทุนต่อหน่วย (Unit Cost) คาดจะรักษาระดับไว้ที่ 29-30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จะยังอยู่ในระดับสูง ประมาณร้อยละ 70-75 


ด้านการจัดทำแผนการลงทุนและเป้าหมายปริมาณขายปิโตรเลียมในช่วง 5 ปีข้างหน้า คาดว่าจะเปิดเผยรายละเอียดได้ไม่เกินกลางเดือน ธ.ค.ปีนี้ แต่หากดูในภาพรวม PTTEP ต้องรักษากำลังการผลิตทั้งในประเทศไทย เมียนมา และในภูมิภาคตะวันออกกลาง รวมถึงเร่งรัดการลงทุนในโครงการใหม่ๆ ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนอีกพอสมควรเพื่อขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะต้องเตรียมงบปีละประมาณ 6,000-7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ


ทั้งนี้ PTTEP แจ้งผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 3 ปี 2567 ต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 511 ล้านดอลลาร์  ลดลง 3 ล้านดอลลาร์  หรือ ลดลงร้อยละ 1 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จากรายได้จากการขายลดลง ประกอบกับค่าเสื่อมราคา ค่าสูญสิ้น และค่าตัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นสุทธิกับภาษีเงินได้ที่ลดลง รวมถึงไตรมาสนี้มีกำไรจากสัญญาประกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน นอกจากนี้ปริมาณขายเฉลี่ยต่อวันปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง