หุ้นอิงกำลังซื้อในประเทศ-ท่องเที่ยวคึกคัก ปีหน้าเศรษฐกิจดี

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เผยภาวะเศรษฐกิจการคลังในเดือนกันยายน ปีนี้ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวและภาคการส่งออกสินค้าที่ยังขยายตัว ขณะที่การบริโภคสินค้าคงทนและการลงทุนภาคเอกชนยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่  ยังคงต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวอย่างใกล้ชิดต่อไป อาทิ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์โลกในภูมิภาคต่าง ๆ ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐ และนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ การฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย ปัญหาหนี้ครัวเรือนและภาคธุรกิจที่จะบั่นทอนการใช้จ่ายในระยะต่อไป ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากปัญหาน้ำท่วมในหลายจังหวัด 

โดยยังคงประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้ไว้ที่ร้อยละ 2.7 (กรอบร้อยละ 2.2-3.2) ซึ่งยังขยายตัวต่อเนื่องจากปี 2566 ที่ขยายตัวร้อยละ 1.9 นำโดยการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และการส่งออก การบริโภคภาคเอกชนที่ฟื้น การส่งออกที่มีสัญญาณฟื้นตัวจากโอกาสของผู้ประกอบการไทยแทนที่สินค้าจีนที่ถูกปรับขึ้นภาษีจากสหรัฐ

 

สำหรับการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีหน้า กระทรวงการคลังคาดว่าจะเติบโตที่ร้อยละ 3 (กรอบร้อยละ 2.5 - 3.5) จากปัจจัยบวก 4 ด้านหลัก คือ 1) การบริโภคภาคเอกชนที่คาดขยายตัวต่อเนื่องทีร้อยละ 2.9 // 2) การส่งออกสินค้า มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 3.1 ตามอุปสงค์ในตลาดโลกและเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า // 3) การท่องเที่ยว ที่คาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะมีจำนวน 39 ล้านคน 

และ 4) การลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชน ที่จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย  จากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอ การลงทุนภาครัฐจากการเร่งรัดโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน// โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 //และโครงการรถไฟทางคู่ในเส้นทางต่าง ๆ เป็นต้น 

ด้านการลงทุนตลาดหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว โดยเฉพาะหุ้นโรงแรม และหุ้นห้างสรรพสินค้า ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากการเริ่มเข้าสู่ไฮซีซั่น โดยหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) มองว่า หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวปรับบวกจากที่ราคาหุ้นของกลุ่มดังกล่าวมีการพักตัวลงมานาน บวกกับวันนี้ PMI ภาคการผลิตและภาคบริการจีนออกมายืนเหนือระดับ 50 อีกครั้ง 

สะท้อนว่าเศรษฐกิจจีนกลับมาขยายตัวได้ ซึ่งจีนถือว่าเป็นนักท่องเที่ยวหลักของไทย ซึ่งในช่วงไตรมาส 4  แต่ต้องลุ้นว่านักท่องเที่ยวจะเข้ามาได้ตามเป้าที่วางไว้หรือไม่ ซึ่งรัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวรออยู่ ทำให้กลุ่มท่องเที่ยวมีความโดดเด่นในไตรมาส 4 อาทิ ERW, CENTEL,MBK,MINT ,VRANDA ,LH ,AWC ,SPA,CPN เป็นต้น 

ด้านหลักทรัพย์ ฟิลิป (ประเทศไทย) ระบุว่ามีมุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทย ตามเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจภายในและภายนอกที่กำลังจะมีความสมดุลมากขึ้น ตามการส่งออกที่มีแนวโน้มกลับมาเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญทางเศรษฐกิจในระยะต่อไป โดยเฉพาะในปี 2568 ที่การลงทุนมีแนวโน้มเป็นอีกแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แตกต่างจากช่วงก่อนหน้าที่เศรษฐกิจไทยขับเคลื่อนโดยการบริโภคเอกชนเป็นหลักเท่านั้น 

ดังนั้น ทางฝ่ายจึงมองเป็น Sentiment เชิงบวกต่อ SET Index โดยเฉพาะหุ้นที่สอดรับกับการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย และองค์ประกอบของเศรษฐกิจไทยทางด้านรายจ่ายในภาคส่วนต่างๆ ที่มีแนวโน้มขยายตัว โดยมองหุ้นเด่นในกลุ่ม 1) การขยายตัวของเศรษฐกิจไทย ได้แก่ BBL, KTB, SCB // 2) การบริโภคภาคเอกชนและการท่องเที่ยว ได้แก่ AAV, ADVANC, AOT, AU, BA, CENTEL, CPALL, CPAXT, ERW, MINT, TRUE //และ 3) การส่งออกสินค้า อย่าง AAI, CPF, DELTA, ITC, STA