ตลาดหลักทรัพย์ฯ จับมือ SAM เสริมภูมิคนไทยจัดการหนี้
ตลาดหลักทรัพย์ฯ และบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด หรือ SAM ร่วมส่งเสริมความรู้การบริหารจัดการหนี้ ต่อเนื่องปี 3 หวังเพิ่มทักษะทางการเงินที่เข้มแข็งและมีภูมิคุ้มกันทางการเงินที่ดีแก่คนไทยในวงกว้าง เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเพิ่มกว่า 1 แสนคนต่อปี
นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ
ให้ความสำคัญในการสร้างรากฐานความรู้ทางการเงินให้แก่ประชาชน ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นในชีวิต สอดรับแนวคิด ร่วมสร้างอนาคต เพื่อโอกาสของทุกคนในวาระที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ก้าวสู่ปีที่ 50 ที่ร่วมทำงานกับพันธมิตรมาต่อเนื่อง โดยบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด เป็นหนึ่งในพันธมิตรที่ได้ร่วมกันพัฒนาเนื้อหาและสื่อความรู้ด้านการบริหารจัดการหนี้ ใช้โมเดลการเรียนรู้สำหรับพี่เลี้ยงการเงิน ซึ่งเป็นตัวแทนขององค์กรในการส่งต่อความรู้และสร้างวัฒนธรรมด้านการเงินที่ดี
ในครั้งนี้ได้มีการลงนามต่ออายุ MOU ส่งเสริมความรู้ทางการเงินและการบริหารจัดการหนี้ระหว่างกันต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เพื่อร่วมกันผลักดันภารกิจสร้างความรู้ความเข้าใจและเสริมทักษะทางการเงินที่เข้มแข็งให้แก่คนไทย ให้มีภูมิคุ้มกันทางการเงินได้อย่างยั่งยืน
"มีประโยชน์ต่อสังคม ต่อประชาชน ต่อบุคลากรทั่วไปเป็นหลัก เพราะมันก็เป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักร เรียกว่าความรู้ด้านการเงิน การก่อหนี้ก็เป็นวัฏจักรปกติ ความรู้ด้านกานเงิน ไม่วาการออม การสร้างรายได้ การลงทุน การสร้างหนี้ มันก็เป็นองค์ประกอบสำคัญอันหนึ่ง ความตั้งใจช่วงนั้น เราก็ตั้งใจว่าจะชวยเหลือต่อเนื่องตั้งแต่ต้นน้ำจนปลายน้ำ ผมว่าในที่สุดการลงทุน การสร้างรายได้สำหรับอนาคตเป็นเรื่องสำคัญ เพราะฉะนั้นการก่อเกิดหนี้ก็คือมีผลกระทบต่อความมั่งคั่ง กำลังในการออม กำลังในการลงทุน ที่เราควรให้ความสำคัญ" ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าว
ด้าน นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด กล่าวว่า การลงนาม MOU ในครั้งนี้ เป็นการสานต่อความร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ในระยะที่ 2 (2567-2569) หลังระยะที่ 1 (2565-2567) ประสบความสำเร็จอย่างดี ช่วยยกระดับและส่งเสริมความรู้ความเข้าใจด้านการเงิน การลงทุน การบริหารจัดการหนี้ ให้ประชาชนทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีประชาชนเข้ามารวมโครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM สะสมแล้วประมาณ 3.6 แสนราย ซึ่งเป็นลูกหนี้ที่ไม่มีหลักประกันของสถาบันการเงินที่ร่วมโครงการทั้ง 36 แห่งมีการเข้ามาปรึกษาปัญหาหนี้เสีย และมีการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม สอดคล้องกับนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่จะช่วยลดปัญหาหนี้ครัวเรือน มีส่วนเพิ่มกำลังซื้อในประเทศอีกทางหนุนเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยังยืน
"ผลการดำเนินเนี้ยมีการเติบโตอย่างมาก คนมีความรู้ว่าเมื่อเป็นหนี้บัตรเครดิตที่เสีย หรือว่าเป็นหนี้ส่วนบุคคลจะหาทางออกได้อย่างไร ในผลการดำเนินงานของคลินิกแก้หนี้เองในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีผู้เข้าโครงการเพิ่มขึ้นอย่างมากอย่างมีนัย ถ้าใน 2 ปีนี้ก็เรียกว่ากว่าแสนราย แสนบัญชี เพิ่มขึ้นเป็น 100% ก่อนหน้าจะเข้าโครงการร่วมกัน ซึ่งเราก็หวังว่าปัญหาหนี้ก็ยังมีอยู่ และในระยะที่ 2 ที่เราจะทำงานร่วมกันต่อไปเนี้ย ก็อยากจะให้ผู้มีปัญหาแล้วได้มองและทราบว่าตรงนี้ยังมีหนทางที่แก้ไขปัญหาได้ " กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด กล่าว
ข่าวแนะนำ