TNN อย่าไล่ราคา แม้ตลาดหุ้นจีนสดใส รัฐกระตุ้นต่อเนื่อง

TNN

รายการ TNN

อย่าไล่ราคา แม้ตลาดหุ้นจีนสดใส รัฐกระตุ้นต่อเนื่อง

SCBAM มองตลาดหุ้นจีนสดใสขึ้น ผู้จัดการกองทุนทั่วโลกเพิ่มน้ำหนักการลงทุน แต่การที่ตลาดหุ้นจีนดีดขึ้นมาเร็วและแรงราวร้อยละ 30 แล้ว จึงไม่ควรไล่ราคาเพื่อเร่งเข้าลงทุน ควรติดตามผลของมาตรกรกระตุ้นและผลกระทบหลังการเลือกตั้งสหรัฐด้วย

นายปิยะภัทร์ ภัทรภูวดล  Director, ผู้บริหารฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBAM) เปิดเผยว่า แม้ในช่วงนี้ตาดหุ้นจีนจะปรับดีขึ้น แม้ปัจจุบันตลาดหุ้นจีนจะปรับลดลงมาประมาณครึ่งทางจากทีขึ้นไปเมือ 2 สัปดาห์ก่อนหน้า ตั้งแตรัฐรัฐบาลจีนประกาศมาตรการกระตุ้นต่างๆ ตั้งปต่ 24 ก.ย. 2567 ที่ผ่านมา แต่ระดับความผันผวนของตลาดจีนที่ผันผวนสูงอาจไม่เหมาะกับนักลงทุนทุกราย 


ดังนั้น นักลงทุนสามารถทยอยเข้าลงทุนได้ ไม่ควรรีบร้อนไล่ราคาเพื่อเข้าซื้อลงทุน  โดยควรรอติดตามดูผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก่อน บวกกับยังไม่มีความขัดเจนเรื่องข้อมูลเงินลงทุน (Fund Flow) ไหลเข้าว่ามีมากน้อยแค่ไหน แต่ต้องยอมรับว่าหลังผู้จัดการกองทุนทัวโลกปรับลดน้ำหนักการลงทุนในจีนไปก่อนหน้านี้ที่จีนเผชืญกับเศรษฐกิจชะลอและมีปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์แล้ว สถานการณ์ปัจจุบันผู้จัดการกองทุนทั่วโลกน่าจะกลับมาเข้ามาเพิ่มน้ำหนักการลงทุน นอกจากนี้นักลงทุนควรติดตามดูผลกระทบจากนโยบายสหรัฐหลังการเลือกตั้งประธนาธิบดีสหรัฐฯ ในต้นเดือนพ.ย.ปีนี้ด้วยว่าจะกระทบตลาดจีนอย่างไรหรือไม่ เพราะสหรัฐฯค่อนข้างเข้มงวดกับการกีดกันจีน อีกอย่างสถานการณ์เศรษฐกิจจีนยีงไม่ถึงกับพลิกฟื้นแบบหน้ามือเป้นหลังมือ


อย่างไรก็ดีหลังรัฐบาลจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องเพื่อพลิกฟื้นการเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ร้อยละ 5 และพลิกฟื้นภาคอสังหาฯ อาทิ มาตรการกระตุ้นผานนโยบายการเงินและการคลัง ปรับลดดอกเบี้ยสนับสนุนการใช้จ่ายของครัวเรือนและภาคธุกิจผ่านต้นทุนการกู้ยืมที่ลดลง ปรับลดสัดส่วนอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์เพื่อเพิ่มสภาพคล่องเข้าระบบประมาณ 1 ล้านล้านหยวน 


รวมถึงมาตรการหนุนตลาดหุ้น ในวงเงินรวม 8 แสนล้านหยวน และมาตรการหนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่ล่าสุดวันนี้ (17 ต.ค.) กระทรวงการเคหะและการพัฒนาเมือง-ชนบทของจีน ประกาศขยาย "บัญชีสีขาว" (white list) ทั้งโครงการที่อยู่อาศัยที่มีสิทธิ์ได้รับเงินทุน และเพิ่มวงเงินสินเชื่อธนาคารสำหรับโครงการเหล่านี้เป็น 4 ล้านล้านหยวน (ราว 5.62 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) เป็นการเพิ่มทุนเพื่อช่วยผู้ประกอบการที่ขาดสภาพคล่องให้มีเงินพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยต่อไป  เป็นต้น ทำให้ตลาดตอบรับค่อนข้างเร็ว โดยตลาดปรับขึ้นราวร้อยละ 20-30 


 ขณะที่การลงทุนปัจจุบันยังให้น้ำหนักกับการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐด้วย รวมถึงตลาดในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่( Emerging Market)  และตลาดหุ้นไทย เนื่องจากตลาดหุ้นไทยก็มีปัจจัยบวกจากหลายด้านหลังคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปร้อยละ 0.25 ไปเมื่อวานนี้ (16 ต.ค.) ซึ่งสงผลบสกต่อหุ้นหลายกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยที่ลดลง เพียงแต่หากดูจากมุมมองตลาดที่คาดดัชนีหุ้นไทยระดับ 1.490 จุดในสิ้นปีนี้ ตลาดอาจมีอัพไซต์จำกัด บวกกับกนง.ก็ไม่ได้ส่งสัญยาณเร็วและแรงต่อเนื่อง   

 

สำหรับกลยุทธ์และคำแนะนำการจัดสินทรัพย์การลงทุน SCBAM ยังแนะนำให้กระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์และในหลายตลาด  

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง