คว้าจังหวะเพิ่มลงทุนหุ้นจีน รับเศรษฐกิจฟื้นอย่างมีเสถียรภาพ
KTAM มองเศรษฐกิจจีนกลับมาฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพ หนุนเพิ่มการลงทุนในจีน เน้นกลุ่มที่เติบโตไปกับเศรษฐกิจจีน เน้นกลุ่มการบริโภคและเทคโนโลยีที่สำคัญ
นายณัฏฐะ มหัทธนา, CFA ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM เปิดเผยว่า แม้ตลาดหุ้นจีนจะเป็นภาพทที่สวนทางกันของตลาดหุ้นฮ่องกงที่ปรับลงมากที่ร้อยละ 9.4 ขณะที่ตลาดหุ้น A-Shares (ดัชนีหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่) ดัชนีเซี่ยงไฮ้ (CSI300) ปรับขึ้นมาเล็กน้อย คาดเป็นความผันผวนระยะสั้น หลังคลาดคาดหวังมาตการกระตุ้นเพิ่มเติมแต่รัฐบาลจียไม่ได้ประกาศแผนกระตุ้นเพิ่มเติม จากที่ได้ดำเนินการไปแล้วในก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ดีมองว่าจากภาพที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรจีนปรับขึ้นและเงินหยวนปรับแข็งค่าขึ้น น่าจะพอสะท้อนได้ว่านักลงทุนไมได้กังวลเศรษฐกิจจีน เพราะหากดูดัชนีตลาดหุ้นทีนักลงทุนเข้าลงทุนกันจริงๆ อาทิ STAR50 Index ,ตลาดหุ้นเชินเจิ้น ก็ยังปรับขึ้น เป็นต้น ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางที่เรามองว่าตลาดหุ้นจีนเป็นขาขึ้นและน่าจะเป็นตลาดกระทิง โดยน่าจะปรับขึ้นได้อีกหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ จากตอนนี้ทีปรับขึ้นมาราวร้อยละ 10 แต่ปรับลดลงไปร้อยละ 8-9 น่าจะเป็นตลาดที่แข็งแกร่ง และนักลงทุนน่าจะเข้ามาลงทุนกันต่อ และตลาดน่าจะปรับขึ้นต่อ
ดังนั้น ภาพนี้จึงแนะนำนักลงทุนที่ยังไมมีหุ้นจีนมองเป็นจังหวะในการเข้าลงทุนหรือเพิมการลงทุนได้ ส่วนใครที่ติดหุ้นจีนอาจต้องทบทวนเครื่องมือที่ใช้ในการลงทุนที่อาจได้ประโยชน์ไม่เท่ากัน ถ้าจะได้ประโยชน์จากการลงทุนชวงนี้อาจใช้กองทุนที่เป็น Active Fund หรือใช้ ฟันด์ที่เป็นกองทุนคัดเลือกหุ้นที่ Active ตามธีมการลงทุนที่นักลงทุนเห็นด้วย สามารถเติบโตไปกับเศรษฐกิจจีนและนโยบายของจีนที่น่าจะเติบโตไปกับการบริโภคในประเทศจีนเอง ไม่ใช่กลุมที่เติบโตกับการส่งออกที่อาจเผชิญกับนโยบายการกีดกันทางการค้าของสหรัฐอย่างต่อเนื่องจากนี้ ซึงสามารถลงทุนได้ทั้ง A-Share , H-Share ,DR , ทั้ง On Shore และ Off shore ที่สามารถลงทุนได้ทั้งหมด หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดดอกเบี้ยแล้ว
เปิดทางให้รัฐบาลจีนสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้ต่อเนื่องได้มากยิ่งขึ้น หนุนการเติบโตของให้เติบโตอย่างต่อเนื่องแบบช้าๆและชัดๆ แบบมีเสถียรภาพ ซึ่งสามารถเติบเม็ดเงินเข้ามากระตุ้นได้เรื่อยๆ จึงสามารถเข้าซื้อรอบใหญ่และเติมการลงทุนในจีนได้ หลังจีนผ่านประสบการณ์มามากและสามารถปรับตัวรับมือในประเด็นต่างๆ ที่สหรัฐและประเทศอื่นๆ กดดันได้ แต่จีนก็สามารถปรับตัวมากระตุ้นจากการเติบโตจากภายในได้ อาทิ กลุ่มการบริโภค เทคโนโลยีที่จีนให้ความสำคัญ เป็นต้น
ข่าวแนะนำ