จับตาตะวันออกกลาง จ้างงานสหรัฐ ดันทองคำโลก 2,700 ดอลลาร์
YLG ประเมินทิศทางราคาทองคำในระยะถัดไปขึ้นกับสถานการณ์ในตะวันออกกลางและรายงานตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐที่จะบ่งชี้ทิศทางดอกเบี้ยเฟด หนุนนำให้ทองคำในตลาดโลกมีโอกาสขึ้นไปแตะ 2,700 ดอลลาร์
นายวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทวายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จํากัด (YLG) เปิดเผยว่า ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลกช่วงนี้ยังแกว่งไซด์เวย์ ประเมินปัจจัยที่จะมีผลต่อทิศทางราคาทองคำระยะถัดไปในสัปดาห์หน้า (7-11 ต.ค.) นี้ ขึ้นกับ 2 ปัจจัยสำคัญ ประกอบด้วย
1) สถานการณ์ในตะวันออกกลางที่มีการตอบโต้กันระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ซึ่งยังคาดสถานการณ์ได้ยาก ดังนั้น ความไม่แน่นอนทีเกิดขึ้นจึงส่งผลต่อราคาทองคำที่ถูกมองเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยด้วย ซึ่งล่าสุดมีรายงานข่าวว่าอิสราเอลได้โจมตีกลุ่มอิซบอลเลาะห์ และเลบานอนเป็นการโจมตีอิหร่านทางอ้อม ไมได้โจมตีอิหร่านโดยตรง ตลาดจึงคาดว่าสถานการณ์อาจไม่รุนแรง ประเด็นนี้จึงอาจไม่่ได้ส่งผลต่อราคทองคำมากนัก
และ 2) ตลาดรอติดตามรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ปีนี้ของสหรัฐ ถ้าตัวเลขออกมาไม่ได้แย่ ก็อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดดอกเบี้ยในระดับร้อยละ 0.25 แต่หากตัวเลขออกมาแย่ก็มีโอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ยที่ระดับร้อยละ 0.5 ซึ่งทิศทางดอกเบี้ยที่ปรับลดลงมากจะมีผลทำให้ราคาทองคำในตลาดโลกปรับขึ้นได้
ส่วนราคาทองคำในประเทศแม้จะปรับขึ้นได้ดีกว่าทีผ่านมา จากทิศทางค่าเงินบาทที่ผ่อนคลายการแข็งค่าลงมาบ้าง หลังการพบและหารือกันของ นายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กับ นายสุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อย่างไรก็ดีเงินบาทยังอ่อนค่าลงไม่มากนัก ทำให้ทองไทยฟื้นมาได้ไม่มากนัก ดังนั้น ในจังหวะนี้นักลงทุนไมควรไล่ซื้อทองในประเทศ ควรรอเข้าสะสมเมื่อราคาย่อตัวลงมา
ทั้งนี้ YLG คาดาการณ์กรอบราคาทองคำในสัปดาห์หน้า โดยมองทองคำในตลาดโลก มีแนวต้านที่ระดับ 2,685 - 2,700 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีแนวรับที่ระดับ 2,625 -2,607 ดอลลาร์/ออนซ์ จากปัจจุบัน ณ 4 ต.ค.นี้ ราคาทองคำ Spot อยู่ที่ระดับ 2,659 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่ทองคำในประเทศคาดกรอบแนวรับที่ระดับ 41,200 -40,400 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 42,150 -42,400 บาท/บาททองคำ โดยกลยุทธ์การลงทุนในระยะนี้ที่ราคายังไซด์เวย์ นักลงทุนสามารถเทรดดิ้งหรือลงทุนระยะสั้นได้ตามกรอบแนวรับและแนวต้าน
ข่าวแนะนำ