TNN คลังแย้มเตรียมมาตรการภาษีออกมาดันการใช้จ่ายปลายปี หุ้นค้าปลีกดีดรับ

TNN

รายการ TNN

คลังแย้มเตรียมมาตรการภาษีออกมาดันการใช้จ่ายปลายปี หุ้นค้าปลีกดีดรับ

คลังแย้มเตรียมมาตรการภาษีออกมาดันการใช้จ่ายปลายปี หุ้นค้าปลีกดีดรับ

รมช.คลังเผยคลังเตรียมออกมาตรการด้านภาษีมากระตุ้นการใช้จ่ายปลายปีนี้ เพื่อสนับสนุนการเติบโตของ GDP ในปี 2568 โตกว่าร้อยละ 3 ด้านโบรกฯ ชี้ หุ้นในกลุมค้าปลีกเตรียมรับอานิสงส์

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลมีความพยายามจะผลักดันให้เศรษฐกิจไทยในปีหน้าโตได้มากกว่า ร้อยละ 3 ส่วนหนึ่งจะมีเม็ดเงินจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ตหรือการแจกเงินหนึ่งหมื่นบาทเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุมเปราะบางใส่เข้าไปแล้ว รวมทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้งใหญ่ นอกจากนี้ ในช่วงปลายปีนี้ รัฐบาลได้เตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไว้แล้ว โดยยืนยันว่าไม่ใช่รูปแบบโครงการ "คนละครึ่ง" แต่จะเป็นรูปแบบของมาตรการภาษีและการกระตุ้นใช้จ่าย แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่ รมช.คลังยืนยันว่า รัฐบาลได้มีมาตรการอยู่ใน pipeline แล้ว ซึ่งเตรียมจะออกมาในช่วงปลายปีนี้ แต่จะเป็นรูปแบบไหนให้รอดู  


โดย รมช.คลัง มองภาวะเศรษฐกิจไทยในปีนี้ว่า มีโอกาสเติบโตได้ใกล้เคียงร้อยละ 2.7 ซึ่งตามประมาณการนี้ ได้ใส่ผลของเม็ดเงินจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการโอนเงิน 10,000 บาท ให้แก่กลุ่มเปราะบางลงไปแล้ว ที่มีผลต่อ GDP ปีนี้ให้เพิ่มขึ้นอีกราวร้อยละ 0.3 จากคาดการณ์เดิมที่ประมาณร้อยละ 2.6 ซึ่งคาดว่ามาตรการจะส่งผลลากยาวไปต้นปีหน้าด้วย สวนในปีหน้า รัฐบาลมองเห็นทิศทางที่ดีของการเติบโตทางเศรษฐกิจไทย ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากที่รัฐบาลได้ทำไว้ในช่วงปีนี้ เป็นโมเมนตัมที่ดีต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการกระจายเม็ดเงินราว 1.4 แสนล้านบาทลงไปสู่กลุ่มเปราะบาง ซึ่งทำให้เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจจากการใช้จ่ายของผู้มีรายได้น้อย และจะต่อเนื่องยาวไปถึงไตรมาสแรกของปี 2568 และหลังจากนั้น รัฐบาลจะทยอยออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม รวมทั้งมาตรการระยะยาวในการดึงดูดนักลงทุน การสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ดี การดูแลสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งที่ทำทั้งหมดนี้ ก็เพื่อสร้างโมเมนตัมทางเศรษฐกิจของไทยในระยะต่อไป


นอกจากนี้ นายเผ่าภูมิ ยังได้กล่าวหลังเปิดงาน Fitch on Thailand 2024 ด้วยว่า ได้ชี้แจงให้บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Rating Agency) ตลอดจนนักลงทุนต่าง ๆ ได้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทยในหลายด้าน ทั้งด้านการเงิน และด้านการคลัง ซึ่งเป็นจุดแข็งสำคัญของไทย ที่ Rating Agency จะนำไปใช้ประกอบการพิจารณาจัดอันดับประเทศไทย โดยดูจาก 3 ด้านหลักสำคัญ คือ 1.การเติบโตทางเศรษฐกิจ 2.หนี้สาธารณะ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ประมาณร้อยละ 63-64 ต่อ GDP และ 3.ความสามารถในการระดมทุนในตลาดทุน พบว่าตลาดทุนไทยได้รับการยอมรับว่าเป็นตลาดชั้นนำในภูมิภาค 


หลักทรัพย์กรุงศรี ระบุว่า กรณีที่ รมช.คลัง กล่าวว่าช่วงปลายปีนี้รัฐบาลได้เตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในรูปแบบของมาตรการภาษีและการกระตุ้นใช้จ่ายไว้แล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่ยืนยันว่าไม่ใช่รูปแบบโครงการ "คนละครึ่ง" ในเชิงกลยุทธ์มองว่ามีโอกาสที่มาตรการน่าจะอยู่ในลักษณะ "ช็อปดีมีคืน" จะเป็นบวกต่อกลุ่มค้าปลีก เน้น CPALL, CPAXT, HMPRO


ด้าน หลักทรัพย์ฟิลลิป ประเมินว่า SET Index แกว่ง Sideways จากแรงกดดันด้าน Sentiment ความกังวลสงครามในตะวันออกกลาง หากยังมีแรงหนุนจากมาตรการภายในประเทศ ทั้งจากกองทุนวายุภักษ์หนึ่ง และการที่รมช.คลังเผยว่าในช่วงปลายปีนี้รัฐบาลได้เตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไว้ โดยจะเป็นรูปแบบของมาตรการภาษีและการกระตุ้นใช้จ่าย จึงมอง AOT เห็นหุ้นเด่น ได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ สอดรับกับข้อมูล ณ วันที่ 29 ก.ย.67 ซึ่งประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม (Ytd) ที่ 26 ล้านคน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 30 จากระยะเดียวกันปีก่อน บวกการท่องเที่ยวไทยกำลังเข้าสู่ช่วง High season และต้นเดือนต.ค.นี้ยังเป็น Golden Week ของจีน 

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง