ตั้งรับจีนพลิกฟื้น ตะวันออกกลางร้อน และหุ้นไทยส่งท้ายปี

นายสวภพ ยนต์ศรี AFPT,Senior Wealth Manager  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า แม้นักลงทุนจะกังวลว่าหุ้นจีนจะมีโอกาสไปตอหรือไม่ เนื่องจากขึ้นมาแรงมาก หลังรัฐบาลกระตุ้นแรงๆ ซึ่ง บลจ.ทิสโก้ มองวาหุ้นจีนจะไปต่อได้หรือไม่นั้่น ต้องดูตัวเลขข้อมูลเศรษฐกิจจีนหลัง Golden Week ของชาวจีนเป็นตัวชี้วัด ว่ามีการใช้จ่ายฟื้นขึ้นมาอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่ และการประกาศงบของบริษัทจดทะเบียนที่จะเริ่มรายงานปลายเดือต.ค.ปีนี้วางบฟื้นได้จริงหรือไม่ รวมถึงต้องจับตาดูเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ (ฟันด์โฟลว์) จากสถาบันการเงินใหญ่ๆ ยังเข้ามาลงทุนต่อหรือไม่ 

โดย บลจ.ทิสโก้ มองว่าในระยะสั้นนี้ สำหรับคนที่มีหุ้นจีนอยูแล้วเป็นโอกาสสำรวจพอร์ตการลงทุน ถ้าใครมีจีนเยอะเกินไป ก็เป็นโอกาสที่ดีในการปรับพอร์ต ถ้ามีกำไรก็ควรแบ่งขายหรือเดิมขาดทุนมากไม่กล้าคัดชวงนี้ที่ขาดทุนน้อยลงก็น่าจะเป็นโอกาสลดพอร์ตจีนลงให้เหมาะสม ส่วนใครยังไม่มีจีนก็มองเป็นโอกาสเข้าลงทุน โดยมองหุ้นที่มีโอกาสปรับขึ้นแรงสุด คือ กลุ่ม China Consumer Discretionary  หรือ หุ้นในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย ซึ่งมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวด้วย อาทิ ยอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าที่ออกมาดีกว่าที่คาด เป็นต้น  

 

นายสวภพ กล่าวว่า สำหรับประเด็นสถานการณ์สงครามในตะวันออกกลางขณะนี้นั้น หากไม่บานปลายและไม่มีชาติอื่นนอกจากอิหร่านและอิสราเอลมาร่วมสู้รบเพิ่มเติม ตลาดอาจจะหันไปสนใจประเด็นอื่นได้ เช่น ตัวเลขการจ้างงานศุกร์นี้ (4 ต.ค.) และการประกาศงบไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งหากตลาดย่อสั้น ๆ แนะนำให้เข้าลงทุนหุ้นโลกที่มีคุณภาพดีกลุ่ม Quality Growth เพราะเชื่อว่าผลกระทบสงครามยังจำกัด แต่หุ้นน่าจะยังวิ่งได้ในช่วงที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดดอกเบี้ย นอกจากนี้ การลงกลุ่มหุ้นคุณภาพจะช่วยจำกัดความเสี่ยงได้ด้วย 

 

ส่่วนการลงทุนหุ้นไทย มองว่ายังมีปัจจัยหนุนในช่วงโค้งสุดท้ายปีนี้ โดยนอกจาก Flow หรือเม็ดเงินจากกองทุนวายุภักษ์แล้ว ยังมี Flow จาก ThiaESG เงื่อนไขใหม่ ซึ่งนอกจากจะช่วยหนุนตลาดหุ้นไทยได้แล้ว ตอนนี้ใครที่อยากลดหย่อนภาษีก็เป็นโอกาสดี จึงแนะนำให้เริ่มลงทุนได้แล้ว ส่วนใครที่รับความเสี่ยงได้ต่ำแต่อยากลดหย่อนภาษี  ก็แนะนำไปลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ ซึ่ง บลจ.ทิสโก้ กำลังเป็น IPO TSIThaiESG ที่เป็นกองทุนลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐล้วน ๆ ลดหย่อนภาษีได้ด้วย