TNN ส่องทิศทางตลาดหุ้นจีน หลังรัฐบาลอัดฉีดแรงทั้งนโยบายการเงิน-คลัง

TNN

รายการ TNN

ส่องทิศทางตลาดหุ้นจีน หลังรัฐบาลอัดฉีดแรงทั้งนโยบายการเงิน-คลัง

จิตตะ เวลธ์ มองมาตรการกระตุ้นรอบใหญ่จีนรอบนี้ถือเป็นปัจจัยหนุนให้เศรษฐกิจจีนเติบโตได้ตามเป้าที่ร้อยละ 5 เป็นโอกาสลงทุนสำหรับคนที่ยังไมมีหุ้นจีนในสัดส่วนร้อยละ 10-15 แนะเข้าจังหวะย่อ แต่ต้องระวังการปรับฐานระยะสั้น

นายประภัศร์พงษ์ นันทกิจพัฒนา ผู้จัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด เปิดเผยว่า แม้วันนี้ตลาดหุ้นจีนจะเป็นเทศกาลหยุดยาวของจีน (Golden Week) เริ่มตั้งแต่วันอังคารที่ 1 ตุลาคม จนถึงวันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม ปี 2567 นี้ แต่การที่รัฐบาลจีนมีมาตรการกระตุ้นล่าสุดถือว่าเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงอย่างร้อนแรง โดยเฉพาะฮั่งเส็ง (Hang Seng) ที่ปรับขึ้นมาต่อเนื่องตลอด 5 วันทำการ รวมปรับขึ้นมาร้อยละ 16 ส่วน  CSI300 ปรับขึ้นมา 9 วันทำการต่อเนื่อง ขึ้นมาที่ประมาณร้อยละ 27 ซึ่งการปรับขึ้นมารุนแรงและต่อเนื่อง สะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่อมาตรการกระตุ้นของรัฐบาลจีนในรอบนี้ 


โดยมาตรการหลักๆ ของจีนมีออกมาใน 3 มาตรการ คือ 1) มาตรการกระตุ้นผานนโยบายการเงินและการคลัง โดยธนาคารจีนก็ได้ปรับลดดอกเบี้ยลงเพื่อสนับสนุนการใช้จ่ายของครัวเรือนและภาคธุกิจผ่านต้นทุนการกู้ยืมที่ลดลง รวมถึงการปรับลดสัดส่วนอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์เพื่อเพิ่มสภาพคล่องเข้าระบบประมาณ 1 ล้านล้านหยวน และส่งสัญญาณวาจะปรับลดเพิ่มเติมได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้  นอกจากนี้รัฐบาลยังได้แจกเงินสดกลุ่มคนเปราะบางเพื่อนำไปใช้จ่ายในชวงวันหยุดยาวนี้ด้วย


2) มาตรการหนุนตลาดหุ้น ในวงเงินรวม 8 แสนล้านหยวนผาน 2 โครงการ โดยโครงการแรก 5 แสนล้านหยวน ธนาคารกลางจีนจะให้เงินสภาพคล่องพิเศษเพื่อนำเงินมาซื้อหุ้นคืนแก่บริษัทหลักทรัพย์ กองทุน และบริษัทประกัน ผ่านการนำทรัพย์สินมาค้ำประกัน และอีกโครงการ 3 แสนล้านหยวน จะให้สภาพคล่องแก่บริษัทจดทะเบียนและผู้ถือหุ้นรายใหญ่เพื่อนำไปซื้อหุ้นได้ 


และมาตรการที่ 3) คือ มาตรการหนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ใน 3 เรื่่องสำคัญ คือ การปรับลดเงินดาวน์บ้านขั้นต่ำสำหรับการซื้อบ้านหลังที่ 2 จากเงินดาวน์ร้อยละ 20 เหลือร้อยละ 15 , การปรับลดดอกเบี้ยสินเชื่อทีมีอยูเดิมลงร้อยละ 0.5 เพื่อลดภาระหนี้ คิดเป็นมูลค่า 1.5 แสนล้านหยวนต่อปี และสุดท้ายคือการเพิ่มสัดส่วนการกู้ยืมในโครงการ Re Landing (การรีไฟแนนซ์ดอกเบี้ยบ้าน) สำหรับบ้านสร้างเสร็จและบ้านที่นำมาปรับปรุงที่อยูอาศัยสำหรับให้เช่า จากสัดสวนร้อยละ 60 เป็นให้ทั้งจำนวน 


ซึ่งมาตรการกระตุ้นข้างต้นของจีน จิตตะ เวลธ์มองว่าหลังสัญญาณทิศทางดอกเบี้ยขาลงที่่ธนาคารกลางสหรับ(เฟด)ส่งสัญญาณชัดเจนแล้ว และเฟดมั่นใจว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะไม่ถดถอยนั้น จะช่วยให้รัฐบาลจีนมีช่องทางในการกระตุ้นได้มากขึ้น และทำให้รัฐบาลมุ่งมันมากขึ้นที่จะทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ปีนี้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่ร้อยละ 5 ในปีนี้ ซึ่่งรัฐบาลก็ได้ออกมาตรการมาอย่างรวดเร็วและมากมาย คาดจะช่วยให้ GDP จีนเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญได้ทันในไตรมาส 4 ปีนี้ ซึ่งผลลัพธ์จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นได้หรือไม่คงต้องดูที่ตัวเลขที่ออกเป็นตัวเฉลย 


สำหรับคำแนะนำการลงทุนจีนนั้น จิตตะ เวลธ์ มีคำแนะนำว่า สำหรับคนที่ลงทุนเก็งกำไรในระยะสั้นในสักดาห์ที่ผ่านมานั้นมีความเป็นไปได้มากที่ตลาดหุ้นจะปรับย่อลงได้ แต่สำหรับนักลงทุนระยะยาวที่ลงทุนในจีนในจีนในสัดส่วนที่ไมมากหรือยังไม่มีหุ้นจีนเลย มองว่าหุ้นจีนยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากในระยะยาว ดังนั้น จึงแนะนำให้มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นจีนประมาณร้อยละ 10-15 นาจะสร้างการเติบโตได้ในระยะยาว แตกลยุทธ์ยังแนะนำให้เข้าเมื่อตลาดย่อ ส่วนคนที่มีหุ้นจีนแล้วในสัดส่วนที่สูงก็ควรระมัดระวัง เพราะชวงนี้เป็นช่วงทีมีการปรับพอร์ตจึงควรปรับพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมให้อยู่ระดับร้อยละ 10-15 หรือถ้ารับความเสี่ยงได้สูงก็อาจปรับสัดส่วนให้อยู่ในสัดส่วนระดับร้อยละ 20-30 ได้ สำหรับกองทุนที่น่าสนใจก็ คือ H-Shares ของ Hang Seng ในกลุมหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เพราะล้อไปกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจของชาติจีนอยู่แล้ว และมีระดับความสามารถในการแข่งขันที่สูง แม้ราคาจะสูงก็ยังสามารถเข้าสะสมได้ 

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง