จีนลดดอกเบี้ยชุดใหญ่ ลุ้นฟื้นมั่นคง ไม่ใช่แค่รีบาวด์

นายณัฏฐะ มหัทธนา, CFA ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM เปิดเผยว่า การปรับนโยบายของจีน ผ่านนโยบายการเงิน ซึ่งล่าสุดวันนี้ (24 ก.ย.) น่าจะเป็นโอกาสการฟื้นตัวของจีนที่ชัดเจนขึ้น เนื่องจากแม้จีนจะลดดอกเบี้ยวันนี้แต่เงินหยวนแข็งค่าขึ้น สะท้อนความมั่นใจจองนักลงทุนที่มองว่าเศรษฐกิจของจีนจะพลิกฟื้นได้ในรอบยี้ ส่งผลให้คลาดหุ้นและตลาดพันธบัจรของจีนมีเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าในระยะต่อไปอย่างชัดเจน หลังธนาคารกลางจีน (PBOC ) ลดอัตราส่วนเงินสำรองขั้นต่ำ (Required Reserve Ratio หรือ RRR) ของธนาคารพาณิชย์ลงร้อยละ 0.50 เหลือร้อยละ 8 และน่าจะลดอีกร้อยละ0. 20 -0.25 ภายในปีนี้ 

พร้อมกันนี้ PBOC ยังประกาศลดดอกเบี้ยบ้านสำหรับลูกหนี้เดิม (existing mortgage loans) โดยเฉลี่ยร้อยละ 0.5 ลดอัตราเงินดาวน์บ้านหลังที่สองจากร้อยละ 25 เหลือร้อยละ 15 และลดอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร  (Reverse Repurchase Rate) อายุ 7 วัน  ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะสั้นที่ถูกยกให้เป็นดอกเบี้ยนโยบายหลัก ลดลงร้อยละ 0.2 จากอัตราร้อยละ 1.7  เหลือร้อยละ 1.5  

รวมทั้ง ลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานที่ธนาคารพาณิชย์จะต้องจ่ายเมื่อมีการกู้ยืมเงินจากธนาคารกลางจีน โดยมีระยะเวลาการกู้ยืม 6 เดือน ถึง 1 ปี เพื่อเสริมสภาพคล่องระยะสั้นให้กับธนาคารพาณิชย์ ที่เรียกว่า MLF ลงร้อยละ 0.30 และลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ธนาคารพาณิชย์ให้แก่ลูกค้าชั้นดี ( LPR ) ลงร้อยละ 0.20 - 0.25  

ภาวะเช่นนี้จึงมองว่าตลาดหุ้นจีนไม่น่าจะแค่รีบาวด์ แต่น่าจะขึ้นได้อย่างมั่นคงและยาวนาน ซึ่งภาพเช่นนี้สามารถลงทุนในตลาดหุ้นจีนที่ผ่าน fund manager ได้ เพราะผู้จัดการกองทุนจะเลือกบริษัทที่มีแนวโน้มเติบโตตามทิศทางของจีน อาทิ  KT-CHINA , KT-Ashares และกองทุนตราสารหนี้อย่าง KT-CHINABOND เป็นต้น รวมไปถึงการลงทุนในทองคำ คริปโทเคอร์เรนซี และเงินหยวน เนื่องจากรอบนี้จีนน่าจะฟื้นได้อย่างยัง่ยืนไม่น่าจะใช่แค่การฟื้นตัว (รีบาวด์) เป็นโอกาสลงทุนรับทิศทางดอกเบี้ยทั่วโลกที่จะปรับลดลงตามธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ปรับลดลงแล้ว และเป็นโอกาสโยกเงินลงทุนจากสหรัฐมาลงทุนในจีนและเอเชีย เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ดี