BGRIM คว้าสัญญาขายไฟฟ้านาน 25 ปี หนุนรายได้

บมจ. บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯว่า บริษัทย่อยและการร่วมค้าจำนวน 8 บริษัท ซึ่ง BGRIM ถือหุ้นร่วมกับบริษัทพันธมิตรอื่นๆ ได้เข้าลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Power Purchase Agreement) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เป็นระยะเวลา 25 ปี เพื่อพัฒนาและดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (Solar farms) กำลังการผลิตตามสัญญารวมทั้งสิ้น 323.3 เมกะวัตต์ โดยมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ตั้งแต่ปี 2569 ถึงปี 2573 ตามประกาศคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานและประกาศอื่นที่เกี่ยวข้อง  ประกอบด้วย 

1) บริษัท สมาร์ท คลีน ซิสเท็ม 5 จำกัด BGRIM ถือหุ้นทั้งจำนวนกำลังผลิต 20.0 เมกะวัตต์ กำหนด COD ปี 2570

2) บริษัท กรีน เพาเวอร์เจน จำกัด BGRIM ถือหุ้นร้อยละ 55 กำลังผลิต 10.0เมกะวัตต์ กำหนด COD ปี 2573

3) บริษัท กรีน เพาเวอร์เจน 88 จำกัด BGRIM ถือหุ้นร้อยละ 55 กำลังผลิต 6.3 เมกะวัตต์ กำหนด COD ปี 2571

4) บริษัท กรีน เพาเวอร์เจน 111 จำกัด BGRIM ถือหุ้นร้อยละ 55 กำลังผลิต 10.0 เมกะวัตต์ กำหนด COD ปี 2571

5) บริษัท ซีแอลพี พาวเวอร์ จำกัด BGRIM ถือหุ้นร้อยละ 40 กำลังผลิต 20.0 เมกะวัตต์ กำหนด COD ปี 2570

6) บริษัท ซีเอ็มที เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด BGRIM ถือหุ้นร้อยละ 40 กำลังผลิต 20.0 เมกะวัตต์ กำหนด COD ปี 2569

7)บริษัท โวลต์ซิงค์ โซลูชั่น จำกัด BGRIM ถือหุ้นร้อยละ 40 กำลังผลิต 108.0 เมกะวัตต์ กำหนด COD ปี 2571

และ 8) บริษัท พาวเวอร์ ซี.อี. จำกัด BGRIM ถือหุ้นร้อยละ 40 กำลังผลิต 129.0 เมกะวัตต์  กำหนด COD ปี 2570

ทั้งนี้ การเข้าร่วมโครงการดังกล่าวสอดคล้องกับกลยุทธ์ GreenLeap-Global and Green เพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกพลังงาน ด้วยการจัดหาพลังงานสะอาดให้กับประเทศไทย 

หลักทรัพย์ กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ว่า BGRIM (Outperform) จากความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าอุตสาหกรรม โดยบริษัทฯ คาดลูกค้าอุตสาหกรรมใหม่ในปีนี้จะมากกว่า 30 เมกะวัตต์ และมีลูกค้าใหม่สำหรับปี 2568 แล้วที่ 40 เมกะวัตต์ พร้อมมีโอกาสเพิ่มอีก 100-200 เมกะวัตต์ จากศูนย์ข้อมูลและการขยายตัวของนิคมอุตสาหกรรม ขณะที่แผนการลงทุนจนถึงปี 2573 มีวงเงินรวมที่ 1.36 แสนล้านบาท น่าจะสามารถจัดการได้โดยไม่ต้องเพิ่มทุน จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”  ให้เป้าหมายที่ 29 บาท คาดจะได้รับประโยชน์จากราคาก๊าซที่ลดลงในปี 2568