เซ็นทรัล รีเทล ผงาดค้าปลีก-ค้าส่ง 4,000 สาขา ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
เซ็นทรัล รีเทล ดันธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งรุกพื้นที่ทั่วไทย กว่า 4,000 สาขา พร้อมเดินหน้าสร้างงาน-ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
หลังจากรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 67 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและบัตรคนพิการ 10,000 บาท ล่าสุดศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินผลของ การสนับสนุนเงินเฟสแรก ซึ่งมีผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้ถือบัตรคนพิการ ได้รับสิทธิ์จำนวน 14.5 ล้านคน มูลค่า 145,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเริ่มใช้จ่ายในเดือน ต.ค. 67 และจะมีเงินหมุนในระบบ 2-3 รอบ ทำให้จีดีพีปี 67 เพิ่มขึ้น 0.2-0.3% ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยทั้งปี 67 คาดว่าเติบโต 2.6-2.8% แน่นอนว่าเงินที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ ย่อมส่งผลดีต่อธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งอย่างมีนัยยะสำคัญ เนื่องจากส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าสำหรับอุปโภคบริโภค และร้านค้าในปัจจุบันก็กระจายตัวอยู่ใกล้กับผู้บริโภค ผู้คนจึงสามารถจับจ่ายใช้สอยได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ ธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ทั้งในแง่ของการสร้างงาน การกระตุ้นการบริโภค และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน การเติบโตของธุรกิจเหล่านี้จึงเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทย โดยตัวเลขมูลค่าตลาดค้าปลีก-ค้าส่งของไทยในปี 67 จากการรวบรวมของสมาคมผู้ค้าปลีกไทย คาดว่า มีมูลค่ารวมกัน ประมาณ 4.4 ล้านล้านบาท
ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าธุรกิจค้าปลีกและค้าส่ง ถือเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจไทย ด้วยบทบาทในการจำหน่ายสินค้าและบริการจากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภค ทำให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าตลาดนี้จะมีความท้าทายอยู่ตลอดเวลา ทั้งการแข่งขันในตลาดจากผู้ประกอบการเดิม ผู้ประกอบการรายใหม่ รวมไปถึงคู่แข่งจากร้านค้าออนไลน์ทั้งในประเทศและต่างชาติบน E-Marketplace นอกจากนี้ยังต้องเผชิญกับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในการนำเทคโนโลยีมาเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และการปรับรูปแบบธุรกิจสู่การเติบโตแบบยั่งยืนและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์ที่สำคัญของโลก และเพื่อความอยู่รอดในตลาดที่มีการแข่งขันสูง
เซ็นทรัล รีเทล หรือ CRC ในฐานะผู้นำธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งในประเทศไทย เวียดนาม และอิตาลี ได้ปรับตัวพร้อมรับการแข่งขันและการเปลี่ยนแปลงต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาได้ทำการขยายธุรกิจครอบคลุมทั่วประเทศไทย ผ่าน 5 กลุ่มธุรกิจหลัก ซึ่งปัจจุบันมีหน้าร้านกว่า 4,000 สาขาทั่วประเทศ ประกอบด้วย กลุ่มฟู้ด 678 ร้าน กลุ่มแฟชั่น 2,669 ร้าน กลุ่มฮาร์ดไลน์ 476 สาขา กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ 27 แห่ง และกลุ่มเฮลธ์แอนด์เวลเนส 116 สาขา (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิ.ย. 67)
นอกจากนี้ เซ็นทรัล รีเทล ยังได้พัฒนาและขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องในทุกภูมิภาคของไทย เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในทุกท้องถิ่น โดยมีสาขาในแต่ละภาค ดังนี้
- ภาคเหนือ 309 แห่ง ผ่านการขยายสาขาท็อปส์และไทวัสดุในจังหวัดสำคัญ
- ภาคกลาง 2,272 แห่ง พร้อมรองรับการขยายตัวของเมือง และการขยายตัวของชุมชน รวมถึงรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 431 แห่ง เน้นการขยายธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่สู่จังหวัดรองและอำเภอสำคัญ
- ภาคตะวันออก 441 แห่ง ตอบโจทย์การเติบโตของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
- ภาคใต้มีสาขาทั้งหมด 513 แห่ง ครอบคลุมทั้งเมืองท่องเที่ยวและชุมชนท้องถิ่น ล่าสุดได้เปิด GO Wholesale สาขาแรกในภาคใต้ สาขาราไวย์ ภูเก็ต เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 67 และสาขาเมืองภูเก็ต เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 67
การขยายธุรกิจอย่างครอบคลุมทั่วไทยทำให้ เซ็นทรัล รีเทล มีการจ้างงานให้กับคนในท้องถิ่นต่าง ๆ มากกว่า 46,000 คน ซึ่งยึดตามหลักปรัชญา CRC Care ที่ยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจด้วยการสร้างเติบโตทุกภาคส่วน ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตทั้งชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อม รวมทั้งสร้างความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกัน
สำหรับแผนธุรกิจในอนาคต เซ็นทรัล รีเทล เดินหน้าบนวิสัยทัศน์ CRC OMNI-Intelligence มุ่งสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ด้วยการพัฒนาอีโคซิสเต็มที่ยืดหยุ่นและปรับตัวให้รวดเร็วในทุกภูมิภาค ตอบสนองความต้องการลูกค้าที่หลากหลาย และพร้อมรองรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของรัฐบาล โดยดำเนินธุรกิจบนความยั่งยืน 5 ด้าน ได้แก่
1. การเสริมแกร่ง Ecosystem และสร้างการเติบโตร่วมกับพาร์ทเนอร์
2. พัฒนาธุรกิจหลักอย่างต่อเนื่อง ผ่านการขยายสาขาใหม่และปรับโฉมสาขาเดิม
ผลักดันยอดขายให้เติบโตในทุกช่องทาง พร้อมยกระดับแพลตฟอร์มออมนิแชแนลอย่างต่อเนื่อง มุ่งเน้นสินค้าที่มีคุณภาพ ครบครัน และบริการที่ดี เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างครบวงจร
4. บริหารธุรกิจอย่างระมัดระวังในช่วงเศรษฐกิจผันผวนด้วยกลยุทธ์ 3C (Cost, Capex, Cash Flow)
5. เสริมแกร่งศักยภาพให้พนักงานด้วยกลยุทธ์ HAI (Human Intelligence + Artificial Intelligence) เพื่อยกระดับการทำงานให้มีประสิทธิภาพ
ถือได้ว่า สิ่งที่ เซ็นทรัล รีเทล ได้ดำเนินการมานั้น ส่งผลดีต่อทุกภาคส่วน รวมถึงช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม ที่สำคัญคือ กลยุทธ์ต่างๆ ของ เซ็นทรัล รีเทล ยังเป็นตัวช่วยสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ จนสามารถครองความเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกและค้าส่ง รวมถึงได้รับการยอมรับในระดับประเทศและระดับโลกในด้านความยั่งยืนอีกด้วย
ข่าวแนะนำ