ภาครัฐ-เอกชน ร่วมผลักดัน หลักสูตร Wellness & Healthcare
ภาครัฐ-เอกชน ร่วมผลักดัน หลักสูตร Wellness & Healthcare ชูไทยเป็นศูนย์กลางระดับโลก
มหาวิทยาลัยมหิดล จับมือพันธมิตร พัฒนาหลักสูตร "Wellness & Healthcare Business Opportunity for Executives (WHB)" โดยได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร นายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล เป็นประธานในพิธีมอบวุฒิบัตร ให้แก่ผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 2 จำนวน 117 คน ขององค์กรชั้นนำต่างๆ ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชนศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร นายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า ในช่วงระหว่างสถานการณ์โควิด-19 ประเทศไทย ได้รับความชื่นชมจากนานาประเทศ เรื่องการบริหารจัดการและควบคุมการแพร่ระบาดได้เป็นอย่างดี ทำให้ประเทศไทยสามารถยกระดับการบริการสุขภาพและการแพทย์ สู่ศูนย์กลางของภูมิภาคและทั่วโลก "หลักสูตรนี้ เป็นอีกหนึ่งความร่วมมือระหว่าง มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ อาทิ กระทรวงสาธารณสุข และภาคเอกชน มาพัฒนาธุรกิจด้านสุขภาพและการแพทย์ของไทยให้เป็น World Hub ต้องอาศัยความถนัดจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาช่วยผลักดันให้ถึงเป้าหมายตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งโปรเจกต์ Andaman Wellness Corridor (AWC) ของผู้เข้าอบรมรุ่นแรกประสบความเร็จ ได้รับการอนุมัติจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนรุ่นที่ 2 จะเน้นเรื่องของการสร้างแบรนด์ให้ธุรกิจนี้เป็นที่รู้จักของนานาประเทศ" ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล กล่าว
ด้าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จันจิรา วงษ์ขมทอง ผู้อำนวยการหลักสูตร WHB เปิดเผยว่า หลักสูตรนี้เป็นการรวมตัวของผู้อบรมหลากหลายวงการ ได้แก่ ภาคนโยบาย ภาควิชาการ และภาคธุรกิจ ที่จะมาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองใหม่ๆ ด้านการบริการสุขภาพ รวมถึงการแพทย์ นำไปสู่การต่อยอดและส่งเสริมเป็นธุรกิจต่างๆ อีกมากมาย เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เป็นผู้นำด้าน Wellness & Healthcare ขณะนี้ กำลังเปิดรับสมัครรุ่นที่ 3 เพื่อสร้างโอกาสให้แก่อุตสาหกรรมนี้ต่อไป ซึ่งจะปิดรับสมัครภายในวันที่ 30 พ.ย. นี้
สำหรับกิจกรรมในหลักสูตร WHB ประกอบด้วย การบรรยายให้ความรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำธุรกิจ พร้อมจัดนิทรรศการและนำเสนอผลงานวิชาการของผู้เข้าอบรม ด้วยกลยุทธ์หลัก 6 ด้าน ได้แก่ "SABAI Wellcation, Sabai Thailand" ดึงเอกลักษณ์ความเป็นไทย ส่งมอบความสบายและผ่อนคลายแบบองค์รวมแก่นักท่องเที่ยว เพื่อให้ประเทศไทยเป็นที่หนึ่ง ด้าน Wellness Tourism, การถ่ายทอดองค์ความรู้ให้เกิดการบูรณาการใน Ecosystem โครงการ Framework for Digital Transformation : Empowering Thailand Wellness and Healthcare, Platform การให้บริการด้านสุขภาพ โดยผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำ 24 ชม., โครงการ Lady D-Care ดูแลสุขภาพเชิงรุกรับสังคมสูงวัย, "Mindfulness for Wellness" เพื่อให้ประเทศไทยเป็นผู้นำทางด้านการฝึกสติและสมาธิในระดับสากล และการพัฒนาบุคลากรด้าน Wellness ที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทาง รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมบริการทั้งระบบ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจากการระบาดของโควิด-19 และสร้างรายได้กลับสู่ประเทศจากการท่องเที่ยว
หลักสูตร Wellness & Healthcare Business Opportunity Program for Executives (WHB) เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน นำโดย มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ บริษัท ไทยพัฒนาสุขภาพ จำกัด, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข, Huawei Technologies (Thailand) และ The Department of Community and Global Health มหาวิทยาลัยโตเกียว เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดให้อุตสาหกรรมทางการแพทย์ครบวงจร เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมและบริการของประเทศไทย พร้อมกับขับเคลื่อนให้ประเทศเป็นศูนย์กลางการบริการด้านสุขภาพและการแพทย์ของโลก โดยคัดเลือกผู้บริหารและผู้ประกอบการธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและการแพทย์ในประเทศ รวมถึงผู้ที่สนใจธุรกิจนี้ตระหนักถึงนวัตกรรมด้าน Wellness เพื่อสร้างเครือข่ายธุรกิจใหม่ ต่อยอดและพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Wellness & Healthcare ต่อไปทั้งนี้ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ โดย นางสาวอนรรฆวี ชูรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านการตลาดกลาง และ นายอภิสิทธิ์ ธีรภาพรุ่งโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการ เป็นหนึ่งในภาคเอกชนที่ร่วมอบรมหลักสูตร WHB รุ่นที่ 2