

สรุปข่าว
วันนี้( 15 เม.ย.63) เจ้าน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุพบศพโชว์เฟอร์รถแท็กซี่ วัย 49 ปี นอนเสียชีวิต อยู่ข้างรถที่จอดติดเครื่องอยู่ริมถนน ภายในซอยโรงเรียนชำนิ ตรงข้ามสนามฟุตซอล หมู่ 2 ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ ใกล้กับรถแท็กซี่ของตนเอง ตามร่างกายไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใดขณะที่ ภรรยาผู้ตาย ให้การกับตำรวจว่า ก่อนหน้านี้ผู้ตายมีอาการไอแห้ง ๆ และมีอาการเจ็บคอมาได้ประมาณ 2 อาทิตย์แล้ว แต่ไม่มีไข้หรืออาการป่วยแต่อย่างใด เพื่อความปลอดภัยเจ้าหน้าที่มูลนิธิจึงได้สวมชุด PPE ตามมาตรการป้องกันโรค ติดต่อเข้าเก็บศพบรรจุใส่ถุงซิปปิดผนึก ส่งชันสูตรที่สถานบันนิติเวช เพื่อเร่งชันสูตร เนื่องจากชาวบ้านที่พบเห็นเหตุการณ์ ต่างวิตกว่าผู้ตายอาจะติดเชื้อโควิด-19 ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปนั้น
ต่อมาเมื่อวานนี้( 14 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปบ้านของผู้ตาย ซึ่งอยู่ภายในซอยอู่ทอง 6 ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เพื่อสอบถามความคืบหน้ากรณีดังกล่าวแต่ภรรยาของผู้ตายได้เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลตำรวจ จึงได้ติดต่อทางโทรศัพท์ ให้ข้อมูลว่า หลังจากแพทย์ได้ชันสูตรการตายอย่างละเอียดแล้วทราบว่าสาเหตุนั้นมาจาก โรคหลอดเลือดแดงใหญ่ในช่องอกแยกชั้นปริฉีก โดยไม่มีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่อย่างใด ตนเองมีลูกสาว 2 คน อายุ 5 ปี และ 13 ปี ครอบครัวเองก็ไม่ได้มีฐานะ ยิ่งมาประสบปัญหากับวิกฤติของไวรัสโควิด-19 ทำให้สามีซึ่งเคยขับรถแท็กซี่ได้วันละประมาณ 1,500 บาท แต่ช่วงนี้ได้เพียง 300 - 400 บาท
ส่วนตนเองซึ่งมีอาชีพแม่บ้านก็ได้เงินเดือนไม่กี่พันบาท และครอบครัวเองก็ไม่ได้รับกรณีเงินเยียวยา 5,000 บาท จึงทำให้ค่อยข้างขัดสนในช่วงสถานการณ์เช่นนี้ สามีจึงต้องออกไปวิ่งรถเพื่อเร่งหาเงินมาจุนเจือครอบครัวและจ่ายค่าเช่ารถที่ค้างอยู่ จนร่างกายแทบไม่ได้พักผ่อน ซึ่งอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เสียชีวิต
ขณะที่นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่เทศบาลนครสมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือครอบครัวผู้ตาย พร้อมกับนำน้ำยาฆ่าเชื้อโรคเข้าทำการฉีดพ่น บริเวณบ้าน และรถแท็กซี่ของผู้ตาย โดยใช้โดรนขึ้นบินพ่นยาฆ่าเชื้อทางอากาศและใช้คนเดินพ่นฉีดยาทางภาคพื้นดิน ก่อนทำการเคลื่อนขบวนไปทำการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อยังจุดที่พบศพและชุมชนในละแวกใกล้เคียง เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับคนในครอบครัวผู้ตายและคนในชุมชน พร้อมแนะนำให้ผู้เป็นภรรยาและลูก ๆ ทำการกักตัวเองอยู่กับบ้านเพื่อสังเกตอาการตัวเองและคนใกล้ชิดจำนวน 14 วัน ซึ่งทางหอการค้าจะเป็นคนดูแลในเรื่องความเป็นอยู่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand
ที่มาข้อมูล : -