เทคโนโลยีไซบอร์กจากนวนิยายแนววิทยาศาสตร์ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์ของการมีความสามารถเหนือมนุษย์ กำลังเข้ามาปฏิวัติการดูแลผู้สูงอายุของจีน ตัวอย่างเช่น หุ่นยนต์โครงกระดูกภายนอกหรือเอ็กโซสเกลเลตัน (exoskeleton) น้ำหนัก 2 กิโลกรัม ที่ออกแบบโดยโรโบซีที (RoboCT) สตาร์ตอัปเทคโนโลยีในเมืองหางโจว ซึ่งช่วยให้ผู้สูงอายุเดินไกลได้ง่ายขึ้น และใช้เวลาสวมใส่เพียง 20 วินาทีโดยไม่ต้องเชื่อมต่อสมาร์ตโฟน
โรโบซีทีวางแผนเปิดตัวอุปกรณ์ช่วยเดินแบบไม่ใช้แบตเตอรี่ดังกล่าวช่วงปลายเดือนมีนาคม สนนราคาอยู่ที่ 2,000 หยวน (ราว 9,300 บาท) การพัฒนาอุปกรณ์นี้ได้แรงบันดาลใจจากกลไกของเอ็น กอปรกับการที่ทีมวิศวกรของบริษัทสังเกตว่าผู้สูงอายุหลายคนเดินหลังค่อม ก้าวสั้น และใช้สายรัดเอวเวลาอยู่ในบ้านพักคนชรา โดยสามารถใช้งานด้วยการสวมใส่รอบสะโพกและเหนือหัวเข่า ซึ่งตัวเครื่องจะจับและกักเก็บพลังงานบางส่วนที่สร้างจากการออกแรงของร่างกาย ก่อนปล่อยออกมาเพื่อช่วยเดิน
เหยียนไห่ ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ของโรโบซีที ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวของจีนว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวช่วยในการงอสะโพกและรักษาความมั่นคงของกระดูกสันหลังส่วนเอว เพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุก้าวยาว เดินเร็ว และทรงตัวดียิ่งขึ้น แม้แต่คนหนุ่มสาวสุขภาพดีที่หากสวมใส่อุปกรณ์ชิ้นนี้ยังได้รับความช่วยเหลือในอัตราร้อยละ 30
สรุปข่าว
ด้านเฉินจือหราน ผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล สังกัดสถาบันการพัฒนาและวางแผนของเจ้อเจียง กล่าวว่าหุ่นยนต์โครงกระดูกภายนอกของจีนมีแนวโน้มเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในภาคส่วนการดูแลผู้สูงอายุ โดยผสมผสานกับเทคโนโลยีหลักอย่างการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ การจดจำการเคลื่อนไหว และเอไอที่เรียนรู้ด้วยตัวเอง
จีนกำลังเผชิญช่องว่างในการตอบสนองความต้องการด้านการเคลื่อนไหวในกลุ่มประชากรสูงอายุที่ขยายตัว ส่งผลให้ภาระหนักตกไปอยู่ที่กลุ่มนักบำบัดฟื้นฟู โดยข้อมูลล่าสุดเผยว่าเมื่อนับถึงสิ้นปี 2024 จีนมีประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 310 ล้านคน คิดเป็นราวร้อยละ 22 ของประชากรทั้งหมด
บริษัทจีนจำนวนมากเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจจากจำนวนประชากรผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น เศรษฐกิจผู้สูงวัยของประเทศกลายเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตหลัก และมีมูลค่าถึง 7 ล้านล้านหยวน (ราว 32.65 ล้านล้านบาท) ในปัจจุบัน ซึ่งผลสำรวจจากบริษัทวิจัยไอ-ไอ มีเดีย รีเสิร์ช (iiMedia Research) เผยว่าเศรษฐกิจผู้สูงวัยของจีนคาดว่าจะเติบโตแตะ 30 ล้านล้านหยวน (ราว 139 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2035
หลายบริษัทกำลังใช้เทคโนโลยีเกิดใหม่อย่างเอไอและหุ่นยนต์มาบุกเบิกสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ปรับให้เหมาะกับผู้สูงอายุ และกำลังเรียนรู้เพื่อแก้ไขปัญหาจริงที่ผู้ใช้สูงอายุพบเจอ ด้วยจุดประสงค์รุกคืบสู่ตลาดเศรษฐกิจผู้สูงวัย
ที่มาข้อมูล : สำนัหข่าวซินหัว
ที่มารูปภาพ : สำนักข่าวซินหัว
จุฑาลักษณ์ แก้วปัญญา