คนอเมริกันทำหมันเพิ่มมากขึ้น ในยุคทรัมป์ 2.0
เดอะวอชิงตันโพสต์รายงานแนวโน้มประชาชนในสหรัฐฯ จะเลือกทำหมันเพิ่มขึ้นเพราะหวั่นเกรงการถูกจำกัดการเข้าถึงการบริการอนามัยการเจริญพันธุ์ระหว่างการบริหารประเทศสมัยที่ 2 ของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เตรียมเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
การวิจัยพบการผ่าตัดทำหมันชายและการผ่าตัดทำหมันหญิงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงไม่กี่เดือนก่อนและหลังจากศาลสูงสุดของสหรัฐฯ ตัดสินคดีด็อบส์ เวอร์เซิส องค์กรสุขภาพสตรีแจ็กสัน (Dobbs vs. Jackson Women’s Health Organization) ซึ่งมีคำวินิจฉัยในปี 2022 ที่ยุติสิทธิทำแท้งตามรัฐธรรมนูญที่มีมาเกือบครึ่งศตวรรษ
การศึกษาจากวารสารเฮลธ์ แอฟแฟร์ส (Health Affairs) พบว่าช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2022 มีการทำหมันชายเพิ่มขึ้นร้อยละ 95 และการทำหมันหญิงเพิ่มขึ้นร้อยละ 70 ในกลุ่มผู้ใหญ่อายุ 19-26 ปี โดยคณะนักวิจัยใช้เวชระเบียนมาวิเคราะห์และพบว่ารัฐที่มีแนวโน้มห้ามทำแท้งหลังจากคำตัดสินคดีด็อบส์ฯ มีการทำหัตถการคุมกำเนิดถาวรเพิ่มขึ้นมากกว่า
การวิจัยจากวารสารเจเอเอ็มเอ เฮลธ์ ฟอรัม (JAMA Health Forum) ที่เผยแพร่ช่วงฤดูใบไม้ผลิของปี 2024 ชี้ว่าการทำหัตถการคุมกำเนิดถาวรในกลุ่มผู้ใหญ่อายุ 18-30 ปี เพิ่มขึ้นหลังจากคำตัดสินคดีด็อบส์ฯ เช่นเดียวกัน
สรุปข่าว
ที่มาข้อมูล : ทำข่าว
ที่มารูปภาพ : สำนักข่าวซินหัว