การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ เป็นภัยคุกคาม "การตั้งครรภ์-คลอดลูก" ในอินโดนีเซีย

คณะกรรมการประสานงานและการวางแผนครอบครัวแห่งชาติอินโดนีเซีย (BKKBN) เผยว่าอินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดอันดับที่สี่ของโลก กำลังเผชิญภัยคุกคามจากภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์และการให้กำเนิดบุตร เนื่องมาจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีต่อร่างกาย โดยอาจส่งผลให้แม่คลอดลูกก่อนกำหนด และเพิ่มอัตราทารกน้ำหนักแรกเกิดต่ำ

ฮัสโต วาร์โดโย หัวหน้าคณะกรรมการฯ กล่าวว่าสถานการณ์ที่เกิดจากภาวะโลกร้อน อาทิ อุกทภัย อาจทำให้หญิงตั้งครรภ์เกิดความเครียดและส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ ขณะที่รายงานภาวะครรภ์เป็นพิษยังเพิ่มขึ้นตามปริมาณมลภาวะในสิ่งแวดล้อมด้วย โดยภาวะครรภ์เป็นพิษคือการที่ผู้หญิงมีความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้นมากจนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และมักเกิดในช่วงการตั้งครรภ์ระยะ 20 สัปดาห์

วาร์โดโยอ้างอิงข้อมูลสถิติระดับชาติ ระบุว่าอัตราการเสียชีวิตของมารดาในอินโดนีเซีย อยู่ที่ 189 รายต่อการให้กำเนิดทารก 100,000 คน ซึ่งสูงกว่าอัตราเป้าหมายที่ 70 ราย ต่อการให้กำเนิดทารก 100,000 คนอย่างมีนัยสำคัญ

ข้อมูลจากกระทรวงการส่งเสริมพลังสตรีและการคุ้มครองเด็กของอินโดนีเซีย เผยว่าทารกกว่าร้อยละ 50 ที่มารดาเสียชีวิตระหว่างการคลอดไม่สามารถอยู่รอดได้หลังขวบปีแรก การเสียชีวิตของมารดาจึงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญสำหรับการเสียชีวิตของทารก

ทั้งนี้ วาร์โดโยยังกล่าวอีกว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่เพียงแต่ทำให้ปัญหาเกี่ยวกับการตั้งครรภ์รุนแรงขึ้นเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากความร้อน และการปนเปื้อนของน้ำและอากาศในอินโดนีเซีย ทั้งยังทำให้คุณภาพอากาศแย่ลงจนนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนในระบบทางเดินหายใจ และภาวะขาดแคลนอาหาร