“ปูติน” ห่วงศก.รัสเซีย หลัง “ทรัมป์” ขู่คว่ำบาตร

แหล่งข่าวหลายรายเปิดเผยกับ “รอยเตอร์ส” ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย มีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการบิดเบือนเศรษฐกิจรัสเซียในช่วงสงคราม หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ออกมาขู่จะคว่ำบาตร หากไม่ยุติความขัดแย้งในยูเครน


เศรษฐกิจของรัสเซียที่ขับเคลื่อนด้วยการส่งออกน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และแร่ต่าง ๆ เติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แม้จะเผชิญการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตกหลายครั้งหลังทำสงครามกับยูเครนในปี 2565


แต่กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศเผชิญแรงกดดันในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากปัญหาขาดแคลนแรงงาน และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเพื่อสกัดเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นจากการใช้จ่ายด้านการทหารมหาศาล


ประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งกลับมาดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ สมัย 2 ให้คำมั่นว่าจะแก้ไขความขัดแย้งในยูเครนโดยเร็วที่สุด นับเป็นความขัดแย้งครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรปตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 พร้อมระบุว่า อาจมีการคว่ำบาตรเพิ่มเติม รวมถึงใช้มาตรการภาษีศุลกากร ยกเว้นประธานาธิบดีปูตินจะยอมเจรจา


“รอยเตอร์ส” รายงานก่อนหน้านี้ว่า ประธานาธิบดีปูตินพร้อมจะหารือกับประธานาธิบดีทรัมป์ เกี่ยวกับทางเลือกในการหยุดยิง แต่จะต้องยอมรับการได้ดินแดนในยูเครนของรัสเซีย และยูเครนต้องถอนตัวจากการเสนอตัวเข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต้ 


ก่อนที่ “ทรัมป์” จะรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ รัฐบาลภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย โดยพุ่งเป้ารายได้จากน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งจะทำให้ “ทรัมป์” มีแต้มต่อในการใช้แรงกดดันทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย


อย่างไรก็ตาม “ปูติน” ระบุว่า รัสเซียสามารถสู้รบได้นานเท่าที่จำเป็น และจะไม่ยอมอ่อนข้อในเรื่องผลประโยชน์แห่งชาติ 


เศรษฐกิจรัสเซียมูลค่า 2.2 ล้านล้านดอลลาร์มีความทนทานต่อแรงกดดันในช่วงสงครามได้ แม้เผชิญมาตรการคว่ำบาตรหลายระลอก หลังจากเศรษฐกิจรัสเซียหดตัวในปี 2565 ก็กลับมาเติบโตอย่างรวดเร็วมากกว่าสหภาพยุโรป (EU) และสหรัฐฯ ในปี 2566-2567 แต่ปีนี้ธนาคารกลางรัสเซียและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ GDP รัสเซียอาจโตไม่ถึงร้อยละ 1.5 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูง


สรุปข่าว

ที่มาข้อมูล : Reuters

ที่มารูปภาพ : ถังภาพ