นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กรมสรรพสามิต เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาโครงสร้างภาษีแบตเตอรี่ใหม่ภายในเดือนกุมพาพันธ์นี้ โดยโครงสร้างภาษีดังกล่าว จะสนับสนุนให้ผู้ประกอบการผลิตแบตเตอรี่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้น
สำหรับโครงสร้างภาษีแบตเตอรี่ใหม่นี้ จะปรับจากการจัดเก็บอัตราเดียว เป็นการจัดเก็บ "แบบขั้นบันได" ภายใต้หลักคิดที่ว่า แบตเตอรี่ที่ให้พลังงานต่อน้ำหนักมาก หรือ มีประสิทธิภาพที่ดี จะมีอัตราภาษีที่ถูกกว่า แบตเตอรี่ที่เก็บพลังงานได้น้อย และไม่สะอาด
ทั้งนี้ โครงสร้างภาษีใหม่ จะนำมาใช้กับแบตเตอรี่ทุกชนิด ซึ่งได้มีการหารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว ทุกฝ่ายเห็นด้วย เพราะเป็นอุตสาหกรรมในอนาคตที่ต้องใส่ใจในสิ่งแวดล้อม ต่อไปถ้าเทคโนโลยีล้าสมัย ก่อให้เกิดมลพิษสูง ก็จะมีต้นทุนการผลิตจากอัตราภาษีที่สูงขึ้น
สำหรับนโยบายภาษีส่งเสริมอุตสาหกรรมรถยนต์นั้น เราจะไม่ให้น้ำหนักไปที่ใดที่หนึ่งระหว่างการผลิตรถยนต์แบบสันดาปกับรถยนต์ไฟฟ้า เพราะผู้ประกอบการในประเทศนั้น เป็นซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมนี้เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะมีส่วนสนับสนุนเอสเอ็มอีและการจ้างงาน ดังนั้น เราจึงคงสนับสนุนการผลิตรถยนต์ในทุกประเภท
นโยบายเรา คือ เป็นจุดตรงกลางระหว่างไฟฟ้า สันดาป เราไม่ควรทิ้ง และควรให้ความสำคัญ เพราะอุตสาหกรรมในประเทศมีซัพพลายเชน ซึ่งเกี่ยวกับเอสเอ็มอีและการจ้างงาน และการผลิตรถยนต์ไฮบริดก็เป็นตลาดสำคัญ เราจะไม่ทอดทิ้งและสนับสนุนด้วยซ้ำ ซึ่งอยู่ระหว่างจะปรับแก้ไคทีเรีย ต้องรอดู
สำหรับนโยบายทรัมป์ 2.0 ที่ไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องของโลกร้อนนั้น เทรนด์หลักของนโยบายของรัฐบาลยังใช้สีเขียว เพื่อต่อสู้มาตรการกีดกันการค้า เราก็ต้องทำประเทศให้พร้อม
ซึ่งขณะนี้ ถือว่าเราก้าวช้าไปหลายเรื่อง เช่น เรื่องของน้ำมัน ที่คิดเป็นร้อยละ 70 ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เราก็ต้องรับผิดชอบให้การปล่อยก๊าซน้อยลง
สรุปข่าว
