ธนาคารกลางเกาหลีใต้ ประเมินว่า GDP ในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว น่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แทบจะไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาด เนื่องจากวิกฤตทางการเมืองครั้งเลวร้ายกระทบต่อความต้องการบริโภคในประเทศ
เมื่อเทียบรายปี GDP ในไตรมาสเดือนตุลาคม-ธันวาคม เติบโตร้อยละ 1.2 ซึ่งน้อยกว่าการเติบโตร้อยละ 1.5 ในไตรมาสก่อนหน้า
ในเดือนธันวาคม ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจลดลง ท่ามกลางความวุ่นวายทางการเมือง หลังจากประธานาธิบดียุน ซ็อก-ยอล ถูกถอดถอน จากความพยายามประกาศกฎอัยการศึกในช่วงสั้น ๆ ตามมาด้วยการถอดถอนนายกรัฐมนตรีฮัน ดั๊ก-ซู
ในไตรมาสดังกล่าว การใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 และการลงทุนของภาคธุรกิจขยายตัวร้อยละ 1.6 อ่อนแอกว่าไตรมาสก่อนหน้าที่การใช้จ่ายผู้บริโภคเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 และการลงทุนภาคเอกชนโตร้อยละ 6.5 ขณะที่การลงทุนด้านการก่อสร้างลดลงร้อยละ 3.2
ด้านการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ฟื้นตัวจากไตรมาส 3 ที่ลดลงร้อยละ 0.2 โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขายเซมิคอนดักเตอร์ที่เพิ่มขึ้นท่ามกลางความต้องการปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI
ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีแนวโน้มจะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้าลงร้อยละ 0.25 และอีก 2 ครั้งในปีนี้เหลือที่ระดับร้อยละ 2.25 หลังจากคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ เพื่อปกป้องเงินวอนที่อ่อนค่าสุดในกลุ่มสกุลเงินเอเชียเมื่อปีที่แล้ว
“ชีวาน แทนดอน” นักเศรษฐศาสตร์จากแคปิตอล อีโคโนมิกส์ ระบุว่า เศรษฐกิจของเกาหลีใต้เผชิญความท้าทายในไตรมาส 4 และคาดว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจที่อ่อนแออาจดำเนินต่อไปในระยะสั้น เนื่องจากวิกฤตทางการเมืองยังไม่คลี่คลาย และแนวโน้มที่ย่ำแย่ของภาคก่อสร้าง
สรุปข่าว
