กองทุนอาบูดาบี ชี้จะลุยลงทุนในจีนต่อ

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า นายคาลดูน อัล มูบารัค ซีอีโอของกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของอาบูดาบา (Mubadala) กล่าวว่า ขอบเขตของการเปลี่ยนแปลงที่ปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (AI) มีต่อทุกแง่มุมของชีวิตมนุษย์นั้นยังคงไม่ชัดเจน พร้อมเน้นย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่ปัญญาประดิษฐ์จะนำมาสู่ชีวิตมนุษย์

ในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซี ณ การประชุม World Economic Forum ที่เมืองดาวอสของสวิตเซอร์ นาย อัล มูบารัค กล่าวว่า ผู้คนยังไม่เข้าใจถึงขอบเขตที่แท้จริงของความเปลี่ยนแปลงที่เทคโนโลยีนี้จะก่อให้เกิดขึ้น เทคโนโลยีนี้จะส่งผลกระทบต่อทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นชีวิตของเรา ธุรกิจ ทรัพยากรมนุษย์ การจ้างงาน ทุกภาคส่วนจะเปลี่ยนแปลงไป แต่แม้จะมีโอกาสมากมาย ความก็มีมากมายเช่นกัน ความเสี่ยงเหล่านี้ยังไม่ชัดเจนเนื่องจากเทคโนโลยีกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว และทุกคนกำลังพยายามตามให้ทัน

Mubadala ซึ่งมีมูลค่ากว่า 3.3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ลงทุนอย่างหนักในด้าน AI และโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง เช่น ศูนย์ข้อมูลและการผลิตชิป โดยกองทุนนี้เป็นหนึ่งในผู้ลงทุนก่อตั้งใน MGX ซึ่งเป็นเครื่องมือการลงทุนที่เน้นด้าน AI ของอาบูดาบี และเข้าร่วมในการระดมทุนมูลค่า 6.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐของโอเพนเอไอ (OpenAI) ในเดือนต.ค. 2567 ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น บริษัท AI ของ Mubadala อย่าง G42 ก็ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ OpenAI เพื่อพัฒนา AI ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลาง

อย่างไรก็ตาม Mubadala จะยังคงลงทุนในจีนต่อไป แม้จะเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ เช่น ความตึงเครียดด้านการค้าภายใต้รัฐบาลชุดใหม่ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ และภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวของจีน โดยชี้ว่าจีนเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ด้วยประชากร 1.4 พันล้านคน

ทั้งนี้ นายอัล มูบารัค เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเสริมสร้างเศรษฐกิจภายในประเทศของจีนซึ่งเผชิญอุปสรรคต่างๆ เช่น วิกฤตตลาดอสังหาริมทรัพย์ การใช้จ่ายของผู้บริโภคที่อ่อนแอ ประชากรสูงอายุ และการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเศรษฐกิจภายในประเทศมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์การค้าโลกที่เปลี่ยนแปลงไป