
พยากรณ์อากาศวันนี้ 9 เมษายน “พายุฤดูร้อน” ถล่มภาคอีสาน ฟ้าผ่า - ลูกเห็บตก ไทยตอนบนร้อนจัด
สภาพอากาศทั่วไป
กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้มีอากาศ ร้อนถึงร้อนจัด ทั่วไปในหลายพื้นที่ ประกอบกับลมตะวันตกเฉียงใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้เกิด ฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง บางแห่ง

สรุปข่าว
แนวโน้มพายุฤดูร้อน (12-14 เม.ย. 2568)
บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ประกอบกับอากาศร้อน ทำให้มีแนวโน้มเกิด พายุฤดูร้อน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกบางแห่ง ฟ้าผ่าในบางพื้นที่
สถานการณ์ฝุ่นละออง/หมอกควัน
ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การสะสมของ ฝุ่นละออง PM2.5 และหมอกควัน อยู่ในระดับ ปานกลางถึงค่อนข้างมาก แต่มีแนวโน้มทรงตัวหรือลดลงเนื่องจากมีฝนตกในพื้นที่
สภาพอากาศในแต่ละภาค
ภาคเหนือ
อากาศร้อนโดยทั่วไป มีพายุฝนฟ้าคะนอง 40% ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง
บริเวณที่ได้รับผลกระทบได้แก่: เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำปาง น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
• อุณหภูมิต่ำสุด 21–25 องศาเซลเซียส
• อุณหภูมิสูงสุด 32–39 องศาเซลเซียส
• ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5–15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศร้อนโดยทั่วไป มีพายุฝนฟ้าคะนอง 40% ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง
บริเวณที่ได้รับผลกระทบได้แก่: เลย ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด ยโสธร และอำนาจเจริญ
• อุณหภูมิต่ำสุด 22–26 องศาเซลเซียส
• อุณหภูมิสูงสุด 35–38 องศาเซลเซียส
• ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10–20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ภาคกลาง
อากาศร้อนโดยทั่วไป มีพายุฝนฟ้าคะนอง 40% ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
บริเวณที่ได้รับผลกระทบได้แก่: นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี และกาญจนบุรี
• อุณหภูมิต่ำสุด 26–27 องศาเซลเซียส
• อุณหภูมิสูงสุด 36–39 องศาเซลเซียส
• ลมใต้ ความเร็ว 10–20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ภาคตะวันออก
อากาศร้อนตอนบนของภาค มีพายุฝนฟ้าคะนอง 40% ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
บริเวณที่ได้รับผลกระทบได้แก่: นครนายก ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี และตราด
• อุณหภูมิต่ำสุด 23–27 องศาเซลเซียส
• อุณหภูมิสูงสุด 32–36 องศาเซลเซียส
• ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15–30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
• ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีพายุฝนฟ้าคะนอง 40% ของพื้นที่
บริเวณที่ได้รับผลกระทบได้แก่: สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
• อุณหภูมิต่ำสุด 23–26 องศาเซลเซียส
• อุณหภูมิสูงสุด 32–37 องศาเซลเซียส
• ลมตะวันออก ความเร็ว 15–30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
• ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีพายุฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่
บริเวณที่ได้รับผลกระทบได้แก่: ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
• อุณหภูมิต่ำสุด 24–26 องศาเซลเซียส
• อุณหภูมิสูงสุด 33–35 องศาเซลเซียส
• ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15–30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
• ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
อากาศร้อนโดยทั่วไป มีพายุฝนฟ้าคะนอง 30% ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
• อุณหภูมิต่ำสุด 25–27 องศาเซลเซียส
• อุณหภูมิสูงสุด 36–38 องศาเซลเซียส
• ลมใต้ ความเร็ว 10–20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ที่มาข้อมูล : กรมอุตุนิยมวิทยา
ที่มารูปภาพ : AFP

ชญาภา ภักดีศรี