
เมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา ชาวปารีสออกมาใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายปิดถนนบางเส้นทางให้เป็นถนนคนเดินเพิ่มอีก 500 จุด เพื่อสนับสนุนเป้าหมายของเมืองที่ต้องการลดการเดินทางด้วยรถยนต์ และปรับปรุงคุณภาพอากาศให้ดีขึ้น ผลการลงคะแนนเสียงพบว่า มีประชาชนสนับสนุนมาตรการนี้ถึง 65.96% ขณะที่ 34.04% ไม่เห็นด้วย
หลังจากนี้ ทางการปารีสจะจัดการประชุมร่วมกับตัวแทนประชาชนเพื่อพิจารณาถนนที่เหมาะสมสำหรับการปิดถนนเพื่อเปลี่ยนเป็นถนนคนเดิน นอกจากนี้ ยังมีแผนเปลี่ยนพื้นที่จอดรถกว่า 10,000 คันให้กลายเป็นพื้นที่สาธารณะสำหรับประชาชนอีกด้วย

สรุปข่าว
สำหรับมุมมองของประชาชนต่อมาตรการนี้ กลุ่มที่สนับสนุนเห็นว่าการเพิ่มถนนคนเดินจะช่วยลดมลพิษทั้งทางอากาศและทางเสียง ทำให้กรุงปารีสเป็นเมืองที่น่าอยู่ยิ่งขึ้น ในขณะที่กลุ่มที่คัดค้านกังวลว่าการปิดถนนจะส่งผลให้ปัญหาการจราจรแออัดมากขึ้น เนื่องจากประชาชนที่ยังต้องใช้รถยนต์อาจต้องเผชิญกับเส้นทางที่จำกัดมากขึ้น และอาจไม่สามารถแก้ปัญหามลพิษทางอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ซึ่งที่ผ่านมา กรุงปารีสได้ดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อลดการใช้รถยนต์ในเมือง เช่น ในปี 2023 ได้มีการห้ามใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า และมีมาตรการปรับค่าจอดรถยนต์ขนาดใหญ่ เช่น SUV ให้สูงขึ้นถึงสามเท่า เพื่อลดจำนวนรถที่ใช้เชื้อเพลิงมาก
เมื่อเทียบกับเมืองอื่น ๆ ในยุโรป กรุงปารีสยังถือว่าเผชิญปัญหามลพิษอย่างหนัก และมีพื้นที่สีเขียวน้อย โดยมีเพียง 26% ของพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งน้อยกว่าค่าเฉลี่ยของเมืองอื่น ๆ ในยุโรปที่มีพื้นที่สีเขียวเฉลี่ย 41% ทำให้ทางการปารีสต้องเร่งดำเนินโครงการต่าง ๆ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว และทำให้เมืองเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
นโยบายเพิ่มถนนคนเดินจึงถือเป็นอีกหนึ่งความพยายามในการทำให้ปารีสเป็นเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และตอบโจทย์เป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมของเมืองในอนาคต

สุนิดา สวัสดิพรพัลลภ