สภาพอากาศ 8 มีนาคม! อุตุฯเตือน 7 จังหวัด รับมือพายุฤดูร้อน ฝนตกหนัก-ลมแรง

กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเรื่อง พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 8 (มีผลกระทบบางพื้นที่ในช่วงวันที่ 7-8 มีนาคม 2568)

บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้านตะวันตก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ 

ส่งผลให้มีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง หรืออยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง 

ส่วนเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันระวังความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไว้ด้วย

สภาพอากาศ 8 มีนาคม! อุตุฯเตือน 7 จังหวัด รับมือพายุฤดูร้อน ฝนตกหนัก-ลมแรง

สรุปข่าว

กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือน "พายุฤดูร้อน" ฉบับล่าสุด 8 มีนาคม รับมือฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง 7 จังหวัด เช็กด่วนเลย รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่

จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้

วันที่ 7 มีนาคม 2568

ภาคเหนือ: จังหวัดน่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ:  จังหวัดเลย หนองบัวลำภู ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา และบุรีรัมย์
ภาคกลาง: จังหวัดลพบุรี สระบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้:  หวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร

วันที่ 8 มีนาคม 2568

ภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสมุทรสงคราม
ภาคใต้:  หวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ที่มาข้อมูล : กรมอุตุนิยมวิทยา

ที่มารูปภาพ : AFP