2% ของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ เสี่ยงตายจากความร้อน ถ้าโลกร้อนขึ้นอีก 7.5% อาจสูญพันธุ์

สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ เช่น กบและซาลาแมนเดอร์ พึ่งพาสภาพแวดล้อมภายนอกในการควบคุมอุณหภูมิร่างกาย เมื่ออากาศร้อนพวกมันมักจะหาที่ร่ม แหล่งน้ำ หรือหลบอยู่ในที่เย็นใต้ดิน เพื่อรักษาอุณหภูมิให้เย็นพอ แต่ถ้าทุกที่ร้อนเกินไปล่ะ? มีขีดจำกัดในการทนต่อความร้อนที่สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำสามารถรองรับได้ ซึ่งทำให้เกิดคำถามว่าพวกมันจะสามารถรับมือกับความร้อนที่สูงขึ้นจากภาวะโลกร้อนในอนาคตได้หรือไม่

การวิจัยใหม่ที่เผยแพร่ในวารสาร Nature โดยทีมงานนักวิจัยจากหลากหลายสถาบันระบุว่า 2% ของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำทั่วโลก หรือประมาณ 100 สายพันธุ์ กำลังประสบปัญหาจากอุณหภูมิที่เกินขีดทน แม้ว่าสัตว์เหล่านี้จะมีการเข้าถึงที่หลบความร้อนและความชื้นก็ตาม แต่หากอุณหภูมิทั่วโลกเพิ่มขึ้นถึง 4°C สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำจะต้องเผชิญกับความร้อนที่เกินทนถึง 400 สายพันธุ์ หรือประมาณ 1 ใน 13 ของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ที่อาจต้องเผชิญกับความเครียดจากความร้อน

2% ของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ  เสี่ยงตายจากความร้อน ถ้าโลกร้อนขึ้นอีก 7.5% อาจสูญพันธุ์

สรุปข่าว

การศึกษาชี้ว่า 2% ของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ กำลังเผชิญกับความร้อนที่เกินทน และหากอุณหภูมิทั่วโลกเพิ่มขึ้น 4°C จะมีสัตว์อีก 7.5% ที่เสี่ยงต่อการสูญเสียแหล่งที่อยู่อาศัยจากความร้อน ทำให้การอนุรักษ์และฟื้นฟูที่อยู่อาศัยเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยให้สัตว์เหล่านี้รอดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ในการวิจัยนี้ ทีมงานได้ศึกษาความทนทานต่อความร้อนของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำโดยรวบรวมข้อมูลจากแหล่งวิจัยต่างๆ ซึ่งรวมถึงการทดลองในห้องทดลองเพื่อหาค่า อุณหภูมิสูงสุดที่สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำสามารถทนได้ หรือที่เรียกว่า critical thermal maximum (CTmax) ซึ่งหมายถึงอุณหภูมิที่สูงที่สุดที่สัตว์สามารถทนได้โดยไม่เสียการควบคุมร่างกาย เช่น การไม่สามารถกลับตัวเมื่อถูกพลิกหรือการเกิดอาการกระตุกของกล้ามเนื้อ

จากข้อมูลที่มีอยู่ ทีมงานได้สร้างฐานข้อมูลที่ครอบคลุมข้อมูลความทนทานต่อความร้อนของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำกว่า 600 สายพันธุ์ ซึ่งคิดเป็น 7.5% ของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำทั้งหมดบนโลก แม้ว่าในข้อมูลที่มีจะขาดข้อมูลจากสัตว์ในเขตร้อนและพื้นที่ในภูมิภาคซีกโลกใต้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่สำคัญมากในการประเมินสถานการณ์ของสัตว์เหล่านี้ทั่วโลก โดยการใช้โมเดลทางสถิติ ทีมงานได้คาดการณ์ความทนทานต่อความร้อนของสัตว์ที่ยังไม่มีข้อมูล ซึ่งช่วยให้สามารถประเมินความทนทานต่อความร้อนของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำได้มากกว่า 5,000 สายพันธุ์ ซึ่งคิดเป็นประมาณ 60% ของสายพันธุ์ที่รู้จักทั่วโลก

เมื่อทีมงานเปรียบเทียบ ขีดจำกัดความทนทานต่อความร้อน ของแต่ละสายพันธุ์กับอุณหภูมิที่เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา รวมถึงสภาพอุณหภูมิในอนาคตภายใต้สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พบว่า 2% ของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ หรือประมาณ 100 สายพันธุ์ อาจอยู่ในสถานะที่เริ่มมีอาการโอเวอร์ฮีตแล้ว ซึ่งคาดว่าเป็นกรณีที่ดีที่สุดเนื่องจากสัตว์เหล่านี้สามารถหลบซ่อนในที่ร่มและชื้นได้

หากอุณหภูมิทั่วโลกเพิ่มขึ้น 4°C ในอนาคต จำนวนสายพันธุ์ที่เสี่ยงจะเพิ่มขึ้นถึง 7.5% หรือประมาณ 400 สายพันธุ์ ซึ่งเท่ากับ 1 ใน 13 ของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำทั้งหมดที่อาจจะถูกผลักดันไปถึงขีดจำกัดของอุณหภูมิที่สามารถทนได้

สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำไม่สามารถย้ายที่ไปได้ง่าย ๆ เพราะพวกมันมักอาศัยในพื้นที่ชุ่มน้ำที่จำเป็นต่อการสืบพันธุ์และหาอาหาร หากแหล่งที่อยู่อาศัยเหล่านี้ได้รับผลกระทบจากความร้อนหรือหายไปจากการทำลายสิ่งแวดล้อม พวกมันอาจไม่มีที่หลบหนีจากภาวะอุณหภูมิสูง

ป่าไม้ที่หนาทึบและแหล่งน้ำที่เชื่อมต่อกันเป็นที่หลบความร้อนธรรมชาติสำหรับสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ การศึกษาพบว่า หากสัตว์สามารถเข้าถึงแหล่งน้ำและที่หลบร้อนที่เพียงพอ พวกมันสามารถทนทานต่อคลื่นความร้อนที่เกิดขึ้นได้ แต่ด้วยการทำลายป่าไม้และภัยแล้งที่เพิ่มขึ้น พวกมันจึงสูญเสียความสามารถในการรับมือกับความร้อน

การปกป้องและฟื้นฟูแหล่งที่อยู่อาศัย เช่น ป่าไม้และพื้นที่ชุ่มน้ำ รวมถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นวิธีสำคัญที่จะช่วยให้สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำสามารถมีโอกาสรอดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ขณะนี้ มากกว่า 40% ของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ กำลังเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ทำให้พวกมันยิ่งเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รุนแรง แต่การปกป้องและฟื้นฟูที่อยู่อาศัยรวมถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอาจช่วยให้พวกมันมีโอกาสรอด การศึกษาความเสี่ยงของสัตว์เหล่านี้ยังคงต้องการการวิจัยต่อไป โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ยังไม่ค่อยมีข้อมูล เช่น ในทวีปอเมริกาใต้ แอฟริกา และเอเชีย การศึกษาเพิ่มเติมจะช่วยให้เราเข้าใจภัยคุกคามที่สัตว์เหล่านี้ต้องเผชิญและสามารถวางแผนการอนุรักษ์ได้ดีขึ้น

การอนุรักษ์สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำไม่เพียงแต่ช่วยรักษาสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ แต่ยังช่วยคงความสมดุลของระบบนิเวศน์ที่สำคัญต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่น  ในโลกของเรา

ที่มาข้อมูล : theconversation.com

ที่มารูปภาพ : Reuters

avatar

Sane Srisukhot
(Sane Srisukhot)

แท็กบทความ