ไฟป่าที่ปะทุขึ้นในเมืองโอฟุนาโต จังหวัดอิวาเตะ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ ได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2,100 เฮกตาร์แล้ว นับว่าเป็นไฟป่าที่รุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปีของญี่ปุ่น ล่าสุด มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 คนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จากไฟป่าในจังหวัดอิวาเตะ ภาคเหนือของประเทศ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากปริมาณฝนตกน้อยที่สุดเป็นประวัติการณ์ในพื้นที่ดังกล่าว และฤดูร้อนที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ทั่วญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลให้อุณหภูมิทั่วโลกสูงขึ้น
“ชิเกรุ อิชิบะ” นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น แถลงต่อรัฐสภาว่า “แม้ว่าไฟจะลุกลามไปในระดับหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราจะใช้มาตรการทุกอย่างที่เป็นไปได้เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนของประชาชน”
ด้านสำนักงานดับเพลิงและป้องกันภัยพิบัติ แถลงว่า ไฟป่าใกล้เมืองโอฟูนาโตะ เผาผลาญพื้นที่ป่าไปแล้วประมาณ 13,125 ไร่ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
สรุปข่าว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจาก 14 จังหวัดของญี่ปุ่น รวมทั้งจากกรุงโตเกียว กำลังพยายามควบคุมไฟป่าอยู่ในขณะนี้ โดยได้รับการสนับสนุนจากเฮลิคอปเตอร์ 16 ลำ ซึ่งมีบางส่วนได้รับความเอื้อเฟื้อจากกองทัพด้วย จนถึงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีอาคารบ้านเรือนได้รับความเสียหายแล้ว 84 หลัง แม้ว่ารายละเอียดจะยังมีการประเมินอยู่ ส่วนเจ้าหน้าที่กล่าวว่า ประมาณ 2,000 คนอพยพออกนอกพื้นที่ไปพักอยู่กับเพื่อน หรือญาติพี่น้อง ขณะที่กว่า 1,200 คน อพยพไปอาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว
ตามข้อมูลของรัฐบาลญี่ปุ่น จำนวนไฟป่าในญี่ปุ่นมีแนวโน้มลดลงตั้งแต่อยู่ในระดับสูงสุดในช่วงทศวรรษที่ 1970 แต่ในปี 2566 มีไฟป่าทั่วประเทศประมาณ 1,300 จุด ซึ่งมากที่สุดจะอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน เนื่องจากสภาพอากาศแห้งและกระแสลมแรง
เมืองโอฟูนาโตะมีฝนตกเพียง 2.5 มิลลิเมตรในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำสถิติต่ำสุดเมื่อเทียบกับ 4.4 มิลลิเมตรในเดือนเดียวกันของปี 2510 และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปกติ 41 มิลลิเมตร
สภาพอากาศที่เลวร้ายบางประเภทมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างชัดเจน เช่น คลื่นความร้อน หรือฝนตกหนัก ส่วนปรากฎการณ์อื่น ๆ เช่นภัยแล้ง, พายุหิมะ, พายุโซนร้อน และไฟป่า อาจเกิดจากหลาย ๆ ปัจจัยรวมกัน
ที่มาข้อมูล : TNN
ที่มารูปภาพ : Kyodo News via AP
Sane Srisukhot
(Sane Srisukhot)