
นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เผยว่า ช่วงวันที่ 4 - 5 มี.ค.68 เมฆฝนมีน้อย แสงแดดส่องตรงลงมาได้ดี อุณหภูมิจะเริ่มสูงขึ้น กลางวันอากาศร้อนถึงร้อนจัด อุณหภูมิสูงสุด 35 - 39 องศาเซลเซียส บางพื้นที่อาจสูงมากกว่า 40 องศาเซลเซียส หากต้องออกนอกบ้านต้องพกร่มกันแดด ผู้ที่ทำงานกลางแจ้งนานๆ ต้องระวังดูแลสุขภาพ อาจมีอาการโรคลมแดด เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียง ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ยังมีฝนฟ้าคะนองยังมีเกิดขึ้นบางแห่ง บริเวณประเทศไทยตอนบน โดยเฉพาะภาคอีสานตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก กทม.และปริมณฑล เนื่องจากยังมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุม ส่วนมากช่วงบ่ายถึงค่ำ ทิศทางลมมีความแปรปรวน ส่วนภาคเหนือมีลมตะวันตก ตะวันตกเฉียงเหนือ พัดจากทางด้านประเทศเมียนมา เข้ามาปกคลุมทางด้านตะวันตกของไทย สำหรับภาคใต้ ฝนลดลง ยังมีฝนบางแห่ง คลื่นลมมีกำลังอ่อนลง แต่ยังต้องระวังบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง โดยเฉพาะบริเวณอ่าวไทย

สรุปข่าว
จากนั้นคาดการณ์สภาพาอากาศในช่วงวันที่ 6 - 8 มี.ค.68 ลมเปลี่ยนทิศทางเนื่องจากยังมีมวลอากาศเย็นกำลังปานกลาง แผ่ลงมาปกคลุมทางด้านตะวันออกของภาคอีสาน ลมตะวันออก ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุม ทำให้มีพายุฤดูร้อน โดยมีลักษณะฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บ เกิดขึ้นในระยะแรกบริเวณที่เสี่ยงปานกลางถึงมากได้แก่ภาคอีสานตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก กทม.และปริมณฑล ต้องระวังพายุฤดูร้อน เกษตรกรต้องเฝ้าระวังผลผลิตทางการเกษตร ต้องเร่งเสริมความแข็งแรงให้กับไม้ผลที่กำลังให้ผลผลิต อาจส่งผลกระทบเกิดความเสียหายได้โดยเฉพาะพื้นที่ในภาคตะวันออก
ส่วนช่วงระหว่างวันที่ 9-18 มี.ค.68 ยังมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นบางแห่งบริเวณประเทศไทยตอนบน เนื่องจากมวลอากาศเย็นจากทางด้านมหาสมุทรแปซิฟิกแผ่ปกคลุม ทำให้มีลมตะวันออกยังพัดปกคลุมประเทศไทย มีกำลังปานกลาง ส่งผลให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น เป็นฝนฟ้าคะนองเล็กน้อยถึงปานกลาง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ฤดูร้อนปีนี้คาดว่าอากาศจะไม่ร้อนแรงเหมือนปีที่แล้ว จะมีฝนฟ้าคะนอง พายุฤดูร้อนมาสลับในบางวัน ต้องระวังพายุฤดูร้อน มาเร็ว แรง อาจสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน (ข้อมูลนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ตามข้อมูลนำเข้าและประมวลผลใหม่ ใช้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจและติดตามสภาพอากาศ) เป็นข่าวที่ยังต้องติดตามเป็นระยะๆ)
ที่มาข้อมูล : facebook : Somkuan Tonjan
ที่มารูปภาพ : Reuters

Sane Srisukhot
(Sane Srisukhot)