
ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับอากาศร้อนจัด
องค์กรอุตุนิยมวิทยาโลกและกรมอุตุนิยมวิทยาของไทยคาดการณ์ว่า เดือนเมษายนจะเป็นช่วงที่อากาศร้อนที่สุดของปี โดยกรุงเทพฯ อาจมีอุณหภูมิเฉลี่ยในเวลากลางวันสูงถึง 35°C ขณะที่ภาคเหนืออาจเผชิญกับ อุณหภูมิสูงสุด 42-44°C ในบางพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดที่มีลักษณะภูมิประเทศเป็นแอ่งกระทะ เช่น แม่ฮ่องสอน ตาก เชียงใหม่ ลำปาง อุตรดิตถ์ เลย และสุโขทัย สาเหตุหลักมาจากหย่อมความกดอากาศต่ำ ประกอบกับกระแสลมพัดพาความชื้นจากอ่าวไทย ทำให้เกิดอากาศร้อนอบอ้าว

สรุปข่าว
ปีนี้คาดว่าไทยจะเผชิญกับสภาพอากาศร้อน เป็นอันดับ 3 ในรอบ 70 ปี รองจากปี 2567 และ 2566 โดยในเดือนเมษายน 2567 จังหวัดลำปางเคยมีอุณหภูมิสูงสุดถึง 44.6°C ขณะที่หลายจังหวัด เช่น ลำปาง แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก และอุดรธานี มีอุณหภูมิสูงเกิน 44°C
แนวโน้มอากาศร้อนสุดขั้วจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ส่งผลให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้นเกิน 1.5°C เมื่อเทียบกับยุคก่อนอุตสาหกรรม ประเทศในเขตร้อนและใกล้เส้นศูนย์สูตรจะมีอุณหภูมิสูงทะลุ 44°C ในช่วงหน้าร้อนของทุกปี
ประชาชนควรระวังโรคลมแดดหรือ ฮีทสโตรก ซึ่งเกิดจากร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไป อุณหภูมิร่างกายอาจสูงกว่า 40°C ส่งผลให้ร่างกายระบายความร้อนไม่ทัน อาจเกิดอาการ อ่อนเพลีย ชัก หรือระบบอวัยวะทำงานผิดปกติ จึงควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง ดื่มน้ำให้เพียงพอ และอยู่ในที่ร่มหรือห้องปรับอากาศให้มากที่สุด
ที่มาข้อมูล : ที่มา: Sonthi Kotchawat
ที่มารูปภาพ : กรมอุตุนิยมวิทยา

null null
(tawee_pen)