นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ประชุุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนนัดแรกของปีนี้ ได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุน 3 โครงการสำคัญ มูลค่าลงทุนรวมกว่า 1.7 แสนล้านบาท ได้แก่ โครงการ Data Hosting ของบริษัทในเครือ TikTok Pte. Ltd. จะลงทุนติดตั้ง Server และอุปกรณ์ต่าง ๆ ใน Data Center ที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อใช้ในการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ และฉะเชิงเทรา มูลค่าลงทุนรวม 1.26 แสนล้านบาท
ถัดมาเป็นกิจการ AI Cloud Service ของบริษัท สยาม เอไอ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทไทยรายแรกที่ได้รับเลือกให้เป็น NVIDIA Cloud Partner (NCP) จะตั้งอยู่ที่จังหวัดชลบุรีและปทุมธานี มูลค่าลงทุนรวม 3,250 ล้านบาท และโครงการลงทุนผลิตโพแทสเซียมคลอไรด์ ซึ่งใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตปุ๋ย ของบริษัท เอเซีย แปซิฟิค โปแตช คอร์ปอเรชั่น จำกัด จะตั้งอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี มูลค่าลงทุนรวม 4.04 หมื่นล้านบาท
สรุปข่าว
นอกจากนี้ บีโอไอยังคาดว่าปีนี้จะมีบริษัทชั้นนำระดับโลกตัดสินใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งในไทยและภูมิภาคอาเซียน เป็นอีกก้าวสำคัญในการพัฒนาประเทศไทยสู่การเป็น Digital Hub ของภูมิภาค หลังปี 67 ไทยได้รับการลงทุนในอุตสาหกรรมดิจิทัลจำนวนมาก โดยเฉพาะในกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานสำคัญอย่าง Data Center และ Cloud Service โดยบริษัทชั้นนำจากทั้งสหรัฐอเมริกา จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย และไทย ลงทุนรวม 16 โครงการ มีเงินลงทุนรวมกว่า 2.4 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจชีวภาพ รวมทั้งกระตุ้นให้เกิดการลงทุนเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวัตถุดิบทางการเกษตรในประเทศมากขึ้น บอร์ดบีโอไอ ได้มีมติเห็นชอบ ดังนี้
1. เปิดส่งเสริม “กิจการผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel หรือ SAF)” ซึ่งใช้ผลผลิตทางการเกษตร เศษวัสดุหรือของเสียจากการเกษตร เป็นวัตถุดิบในการผลิตเชื้อเพลิงสำหรับอากาศยาน ให้สิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี
2.ปรับปรุงกิจการนิคมหรือเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร ให้เป็น “กิจการนิคมหรือเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมชีวภาพ” เพื่อให้มีขอบข่ายธุรกิจที่กว้างขึ้น ครอบคลุมทั้งด้านเกษตร อาหาร พลังงานทดแทน และบริการสนับสนุน ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการส่งเสริมอุตสาหกรรม BCG โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 5 ปี
และบีโอไอจะเร่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนปี 2568 มุ่งสู่ Hub 5 ด้าน ได้แก่ ศูนย์กลางอุตสาหกรรมด้าน BCG (Bio-Circular-Green Industries Hub) ศูนย์กลางเทคโนโลยีและนวัตกรรม (Tech Hub) ซึ่งจะครอบคลุมหลายสาขา เช่น รถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และดิจิทัล ศูนย์รวมบุคลากรทักษะสูงจากทั่วโลก (Talent Hub) ศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์และธุรกิจระหว่างประเทศ (Logistics & International Business Hub) และศูนย์กลางอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Soft Power and Creative Hub) โดยมุ่งดึงดูดการลงทุนใน 5 อุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ ด้วยการบูรณาการผ่านคณะกรรมการระดับชาติ ทั้งบอร์ดอีวี บอร์ดเซมิคอนดักเตอร์ และคณะกรรมการสิทธิประโยชน์ด้าน
ซอฟต์พาวเวอร์ รวมถึงการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อดึงดูดการลงทุน และเตรียมขยายสำนักงานบีโอไอเพิ่มอีก 2 แห่งที่นครเฉิงตู ประเทศจีน และสิงคโปร์
รวมทั้ง ยกระดับผู้ประกอบการไทย และสนับสนุนการเชื่อมโยงเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานระดับโลก โดยเฉพาะ SMEs ในการเข้าสู่อุตสาหกรรมใหม่ พัฒนาบุคลากรทักษะสูง โดยบีโอไอทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และภาคเอกชน และจะดึงดูดบุคลากรทักษะสูงจากต่างประเทศ ผ่านมาตรการ LTR Visa และ Smart Visa , ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานและระบบนิเวศการลงทุน โดยส่งเสริมการลงทุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งด้านกายภาพและดิจิทัลที่สำคัญ ปรับปรุงกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคในการลงทุน และพัฒนาเครื่องมือเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการเก็บภาษีส่วนเพิ่ม (Global Minimum Tax) ร่วมกับกระทรวงการคลัง,การพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียวและอุตสาหกรรมยั่งยืนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ด้านราคาหุ้นในช่วงเปิดตลาดเมื่อเวลา 10.02 น. โดยหุ้น LTS บวกร้อยละ 7.69 // INSET บวก ร้อยละ 4.35 // BE8 บวกร้อยละ 2.08 // BBIK บวกร้อยละ 0.67 // WHA บวกร้อยละ 2.05 // AMATA บวกร้อยละ 1.96 // และ GULF บวกร้อยละ 0.42
หลักทรัพย์ กรุงศรี ประเมินว่าโครงการ Data Center ที่ Tiktok จะลงทุนอุปกรณ์ติดตั้ง ถือเป็นโครงการใหม่ที่เข้ามาเพิ่มเติมเป็นบวกต่อโอกาสหุ้นรับเหมางาน Data Center ในส่วน INSET ที่ปริมาณในระบบเพิ่มขึ้น และเป็นจิตวิทยาบวกหุ้นในธีม Infra Tech // โรงไฟฟ้า GULF // สื่อสาร ADVANC, INTUCH
ส่วน หลักทรัพย์เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) มองว่า ปัจจัยในประเทศมีสัญญาณบวกจากบีโอไอเผยยอดอนุมัติส่งเสริมการลงทุนครั้งแรกของปีนี้ใน 3 โครงการมูลค่าเงินลงทุน 1.7 แสนล้านบาท โดย 2 โครงการหลักมาจากการธุรกิจทางด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล เช่น การติดตั้ง Server,Data Center และ Cloud นั้น มองเป็นบวกต่อกลุ่ม Tech Service คือ BBIK , BE8 และ กลุ่มนิคม AMATA , WHA
ด้านหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) ประเมิน บีโอไออนุมัติโครงการลงทุนของ TikTok และ Siam AI มองว่า BOI application ปีนี้จะยังแข็งแกร่ง ไม่ต่ำกว่า 1.0 ล้านล้านบาท เทียบกับ 1.14 ล้านล้านบาทในปีที่แล้ว ซึ่ง 3 โครงการนั้น การลงทุนของ TikTok จะอยู่ในกรุงเทพฯ ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ และไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับ AMATA หรือ WHA แต่การลงทุนของ Siam AI ในชลบุรีและปทุมธานีอาจส่งผลดีต่อ AMATA ในกลุ่มนี้ชอบ AMATA มากกว่า WHA หลังจากในการประชุมนักวิเคราะห์ครั้งล่าสุด ทาง WHA มีแนวทางในปีนี้ที่ระมัดระวังมากขึ้น และคาดว่า ADVANC และ TRUE จะได้รับประโยชน์จากบริการ 5G และโซลูชันสำหรับองค์กร ขณะที่ GULF น่าจะมีจิตวิทยาเชิงบวกต่อแนวโน้มความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น
ที่มาข้อมูล : สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
ที่มารูปภาพ : สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน