'แม่น้ำและบึงป่าพรุแห่งเคียฟ' นายพลยูเครนเผย อุปสรรคธรรมชาติ ภูมิศาสตร์ที่ช่วยให้เคียฟ 'ไร้เทียมทาน'

---รัสเซียโจมตีด้วยอาวุธหนัก---

กรุงเคียฟกำลังเผชิญความรุนแรงของการสู้รบที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆ จากการโจมตีด้วยอาวุธหนักของรัสเซีย เห็นได้จากสภาพของห้องแถว 9 ชั้น ที่ถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธ ในเช้าวันจันทร์ (14 มีนาคม) ที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนเสียชีวิตอย่างน้อย 1 คน และตึกพังทลาย ผู้คนนับสิบต้องอพยพไร้ที่อยู่ ขณะที่หลายคนเลือกที่จะยังอาศัยอยู่บนตึก ไม่ลงไปที่หลุมหลบภัย 

แต่ในพื้นที่ใจกลางกรุงเคียฟ เขตชุมชนหลาย ๆ แห่งยังไร้ริ้วรอยจากยุทโธปกรณ์ของรัสเซีย ขณะที่เมืองในยูเครนแห่งอื่น ๆ ยังเผชิญการโจมตีอย่างหนัก

---แม่น้ำและบึงป่าพรุที่ช่วยป้องกันเมืองไว้--- 

นายพลคริสเชนโก ที่พ่วงตำแหน่งรองผู้ว่าการกรุงเคียฟ และนายพลเคนยาเซฟ สวมเสื้อยืดสีเขียว เช่นเดียวกับที่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี สวมใส่ เพื่อปลุกใจประชาชน สร้างความชื่นชมให้เหล่าพันธมิตร และยังแสดงจุดยืนต่อศัตรูด้วย ให้สัมภาษณ์กับนักข่าว BBC 

เหล่านายพลระบุว่า พวกเขากำลังป้องกันไม่ให้ปืนใหญ่รัสเซียเข้ามาในระยะโจมตี แต่ท้ายสุด กรุงเคียฟก็ไม่อาจต้านทานการโจมตีด้วยขีปนาวุธได้ 

“มันยากมากที่จะปกป้องพื้นที่ขนาดใหญ่ทั้งหมดนี้ไว้ได้...แต่ในอีกแง่หนึ่ง มันมีทั้งแม่น้ำ สะพาน ที่อยู่ในเส้นทางเข้าสู่กรุงเคียฟ กองกำลังของเรากำลังสร้างสิ่งป้องกันบนฐานที่มั่นเหล่านี้"

"รอบ ๆ เมืองยังมีแม่น้ำเล็ก ๆ ที่ไหลลงแม่น้ำดนีเปอร์ ทั้งยังมีบึงป่าพรุ ซึ่งหมายความว่า การเคลื่อนทัพขนาดใหญ่ผ่านพื้นที่เหล่านี้ จะทำได้อย่างยากลำบาก” นายพลกล่าว โดยอธิบายถึงสภาพทางภูมิศาสตร์ของกรุงเคียฟ ที่เป็นที่ราบลุ่มต่ำ และพื้นดินที่อ่อน ทำให้รถถัง หรือยุทโธปกรณ์ที่มีน้ำหนักมาก ไม่อาจเคลื่อนตัวผ่านได้  

ข้อได้เปรียบอีกอย่างคือ กรุงเคียฟเป็นเมืองอุตสาหกรรม มีคลังสินค้า และโรงงานจำนวนมากที่ถูกเปลี่ยนเป็นป้อมปราการ และรายล้อมไปด้วยอิฐคอนกรีต กระสอบทราย และสิ่งกีดขวางต่อต้านรถถังหลากหลายชนิด 

---ยูเครนเดินตามแผนยุทธศาสตร์---

นายพลคริสเชนโก และนายพลเคนยาเซฟ ยืนอยู่หน้าจอขนาดใหญ่ เพื่อบัญชาการและติดตามกองทัพรัสเซียที่กำลังมุ่งหน้ามายังกรุงเคียฟ 

พวกเขาอธิบายว่า ยูเครนได้โจมตีและหยุดยั้งแนวรุกสองทางของรัสเซีย ทั้งจากปีกตะวันออก และปีกตะวันออกเฉียงเหนือของเคียฟ ซึ่งการโจมตีเหล่านี้ รวมถึงขบวนทัพแถวยาว 64 กิโลเมตรของรัสเซียด้วย 

นายพลยูเครนยังระบุว่า ทัพเหล่านี้ถูกโจมตี และถูกแยกขาดออกจากกัน หมดความเป็นภัยคุกคามไปแล้ว ขณะนี้ กองทัพรัสเซียยังมุ่งเน้นการโจมตีที่ปีกตะวันตกเฉียงเหนือของกรุง โดยนายพลเคนยาเซฟ ชี้ให้เห็นจุดที่ทหารราบรัสเซียประจำการอยู่ใกล้กรุงเคียฟที่สุด อยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำเออร์ปิน ห่างจากใจกลางกรุงเคียฟราว 20 กิโลเมตร 

กองทัพยูเครนได้ระดมกำลังรบติดอาวุธหนัก และมอบหมายให้พวกเขานี้ ระเบิดสะพานยุทธศาสตร์ รอบ ๆ กรุงเคียฟทิ้ง ขณะที่ผู้คนนับพัน ต้องพลัดถิ่นจากเมืองเออร์ปิน และอพยพข้ามแม่น้ำ โดยมีทรัพย์สินติดตัวคือสุนัขและแมว 

---กองทัพรัสเซียไม่อาจเอาชนะยูเครนได้?---

นายพลยังกล่าวว่า กองทัพรัสเซียไม่อาจไล่ตามผู้คนที่อพยพ รวมถึงทหารยูเครนที่เคลื่อนที่เพื่อโจมตีได้ทัน

“มันมีที่ราบลุ่มต่ำ ที่ทัพรัสเซียเคลื่อนผ่านไม่ได้ ถ้าไม่มีทหารยูเครน พวกเขาจะวางทุ่น เพื่อข้ามแม่น้ำไป แต่กองทหารยูเครน ขัดขวางและทำลายปฏิบัติการเหล่านั้น” 

อย่างไรก็ดี มีเสียงขีปนาวุธระเบิดอยู่ไม่ไกลจากห้องบัญชาการรบมากนัก ขณะที่เจ้าหน้าที่ในห้องกล่าวว่า “นั่นคือเสียงระบบป้องกันทางอากาศ สกัดจรวดที่ยิงเข้ามา” 

แต่ขีปนาวุธนั้นไม่ได้ระเบิดกลางอากาศ ขีปนาวุธตกลงมา ทำให้คนขับรถบัส 1 คนเสียชีวิต ทั้งยังทำให้ตึกหนึ่งแถบเสียหาย 

ความสำเร็จของทหารยูเครน สร้างความประหลาดใจให้ทั้งฝ่ายพันธมิตร และฝ่ายศัตรู ขณะที่ประสิทธิภาพของเหล่าทหาร และอาสาสมัครร่วมรบ ยิ่งทำให้ประธานาธิบดียูเครน และเหล่าผู้บัญชาการทหารได้รับเสียงชื่นชมมากขึ้น

ทั้งนี้ ความจริงอีกอย่างคือ รัสเซียยังไม่ได้ใช้กำลังรบเต็มอัตราศึกกับเมืองหลวงของยูเครนแต่อย่างใด  

—————

ติดตามสถานการณ์ยูเครน-รัสเซียอย่างใกล้ชิด

https://bit.ly/TNNRussiaInvasion

—————

แปล-เรียบเรียง: นราธร เนตรากูล

ภาพ: Reuters