
เกิดเหตุโจมตีทางอากาศที่รุนแรงที่สุดในปีนี้ เมื่อขีปนาวุธของรัสเซียพุ่งถล่มใจกลางเมืองซูมี ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครนในวันนี้ (13 เม.ย.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 21 ราย ขณะประชาชนจำนวนมากกำลังร่วมพิธีกรรมในโบสถ์เนื่องในวันปาล์มซันเดย์ (Palm Sunday) ตามรายงานของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น
สำนักงานอัยการประจำภูมิภาคซูมีเปิดเผยว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บเกือบร้อยคนแล้ว
การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากเหตุโจมตีด้วยขีปนาวุธในเมืองครีวิรีห์ ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไป 20 ราย
อาร์เตม โคบซาร์ นายกเทศมนตรีรักษาการของซูมี ยืนยันจำนวนผู้เสียชีวิตและกล่าวว่า “นี่คือวันที่โศกเศร้าอย่างยิ่งสำหรับชาวเมืองซูมี”

สรุปข่าว
ด้านประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ออกแถลงการณ์ประณามการโจมตี และเรียกร้องให้ประชาคมโลกตอบสนองอย่างเข้มแข็ง โดยกล่าวว่า รัสเซียต้องการสร้างความหวาดกลัวเช่นนี้ และกำลังยืดเยื้อสงครามออกไป หากปราศจากแรงกดดันต่อผู้รุกราน ความสงบจะไม่มีวันเกิดขึ้น การพูดคุยไม่เคยหยุดยั้งขีปนาวุธหรือลูกระเบิดได้ เราต้องปฏิบัติต่อรัสเซียในแบบที่ผู้ก่อการร้ายสมควรได้รับ
หัวหน้าฝ่ายบริหารทหารประจำภูมิภาค กล่าวว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธแบบยิงทางวิถี 2 ลูกเข้าโจมตีกลางเมืองในช่วงเวลาที่ผู้คนอยู่บนถนนจำนวนมาก พร้อมเสริมว่า ศัตรูต้องการสร้างความสูญเสียแก่พลเรือนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครน ประณามการโจมตีในวันสำคัญของคริสต์ศาสนาอย่างรุนแรง โดยเรียกการกระทำนี้ว่าความชั่วร้ายอย่างแท้จริง พร้อมเรียกร้องให้พันธมิตรจัดหาอาวุธป้องกันภัยทางอากาศเพิ่มเติมให้ยูเครน และเพิ่มแรงกดดันต่อมอสโก
ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา รัสเซียได้เพิ่มความถี่ในการโจมตีทางอากาศในภูมิภาคซูมี พร้อมทั้งผลักดันกองกำลังยูเครนออกจากบางส่วนของแคว้นเคิร์สก์ซึ่งอยู่ติดกัน และยึดหมู่บ้านเล็ก ๆ บางแห่งในฝั่งยูเครนไว้ได้แล้ว
ที่มาข้อมูล : BBC, CNN, Reuters
ที่มารูปภาพ : Reuters